FootNote:คำถาม อนุทิน ภูมิใจไทย ถามประยุทธ์ พลังประชารัฐ
ปฎิกิริยาของพรรคภูมิใจไทย แถลงยาวเหยียดจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล เหมือนกับเป็นการสื่อถึงบางกลุ่มบางฝ่ายภายในพรรคพลังประชารัฐ เหมือนกับเป็นการสื่อถึงสื่อประเภทลูกแหล่งตีนมือที่ทอดตัวรับใช้
อาจดูเหมือนว่าเป็นเช่นนั้น แต่แท้จริงแล้วต้องการ”สื่อ”มากกว่า นั้น สูงยิ่งไปกว่านั้น
เพราะว่าที่เรียกว่าแกนนำไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็น รองหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการพรรค ก็มีสถานะแทบไม่แตก ต่างไปจากสื่อที่ทอดตัวรับใช้
นั่นก็คือ ดำรงอยู่ในลักษณะอันสำนวนลาวเวียงจันทน์ระบุว่าเป็น “ลูกแหล่งตีนมือ”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่างหากคือเป้าหมายแท้จริง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างหากคือเป้าหมายแท้จริง
ทำไมพรรคภูมิใจไทยจะต้องไปสนใจบริษัทบริวารที่ชูคอสลอนอยู่ภายในพรรคภูมิใจไทย ทำไม นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องไปสนใจพรรคพลังประชารัฐ
Advertisement
เพราะในห้วงของการเจรจาภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมก็รู้เช่นเห็นชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล มิได้ตกลงแบ่งสรรปันส่วนกระทรวงกับหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรคของพรรคพลังประชารัฐ
เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่างหาก
คำถามจึงพุ่งไปยัง 2 คนนี้เป็นสำคัญ
เหมือนกับจะถามว่าต้องการทวงคืนกระทรวงคมนาคมจริงหรือ ต้องการสลัดละทิ้ง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จริงหรือ
ไม่ว่าท่าทีต่อตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาวิธีการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไม่ว่าท่าทีในการขุดคุ้ยโจมตีบทบาทของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เป็นท่าทีที่แสดงจุดยืนและความต้องการอย่างเด่นชัดอันออกมา จากพรรคพลังประชารัฐ
คำถามจากพรรคประชาธิปัตย์ คำถามจากพรรคภูมิใจไทยจึงสำคัญ ไม่เพียงแต่ต่อพรรคพลังประชารัฐ หากแต่สำคัญต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย
ว่าไม่สนใจ 53 เสียง ไม่สนใจ 52 เสียงแล้วหรือ