คดีประวัติศาสตร์
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
คดีประวัติศาสตร์ – กระบวนการยุติธรรมในคดีฆาตกรรม และซ่อนเร้นอำพรางศพ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เดินหน้ามาถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
อดีตหัวหน้าอุทยานฯแก่งกระจาน และพวกรวม 3 ราย รับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ผู้ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่เผยปฏิกิริยาคล้ายกันว่าตกใจและกังวลใจ แม้ประกาศว่าพร้อมจะสู้คดีในชั้นศาล แต่บ้างก็ถึงกับท้าสาบาน หรือสันนิษฐานไปว่าถูกกลั่นแกล้ง
แต่ผู้ที่กังวลใจไม่น้อยไปกว่ากันคือครอบครัวผู้สูญเสียที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ว่าอาจถูกคุกคามจากบุคคลหรือฝ่ายที่ไม่พึงปรารถนา
หลังจากเคยกังวลใจมานานกว่า 5 ปีว่าจะไม่ได้รับคำตอบว่าชีวิตของบิลลี่ที่หายไปนั้นหายไปที่ใดและอย่างไร
สิ่งที่ประชาชนติดตามและสนใจคดีนี้มีตั้งแต่กระบวนการสอบสวนและการหาหลักฐานที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์
เหมือนคดีฆาตกรรมอื่นๆ ที่ผ่านมาเป็น เวลานาน แต่ไขคดีได้ด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
คดีบิลลี่ พอละจี เปลี่ยนจากการหายตัวเป็นถูกฆาตกรรม ด้วยเทคโนโลยีการตรวจสอบหลักฐานที่ทันสมัย เช่น การตรวจทางเคมี ทางฟิสิกส์ ทางชีววิทยา ทางนิติเวช ฯลฯ
แม้จะทำให้ครอบครัวผู้สูญเสียเศร้าเสียใจ แต่ก็ลดความทรมานใจที่ต้องรอคอยโดยไม่รู้คำตอบ
บิลลี่ พอละจี หายตัวไปที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.2557 หลังถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่าอย่างผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าได้ปล่อยตัวแล้วใน วันเดียวกัน แต่บิลลี่ไม่ได้กลับถึงบ้านอีกเลย
รอยต่อระหว่างการปล่อยกับการหายไปจากโลกเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสืบสวนสอบสวน
ส่วนคำตัดสินย่อมขึ้นอยู่กับศาล ว่าหลักฐานและพยานต่างๆ น่าเชื่อถือหรือไม่อย่างไร
คดีนี้จะเป็นคดีประวัติศาสตร์ทางสังคม ทั้งกับประชาชน ชนกลุ่มน้อย กลุ่มสิทธิมนุษยชน และบุคคลในกระบวนการยุติธรรม