รัฐบาลไม่ได้สั่ง – การจับกุมนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองและเยาวชนที่แสดงความเห็นทางการเมืองโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นที่มาของข้อเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องหยุดคุกคามผู้มีความเห็นแตกต่าง

โดยเฉพาะเมื่อเป็นการแสดงออกหรือชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ ยิ่งเป็นเรื่องที่ควรได้รับการคุ้มครองทั้งจากกฎหมายไทยและกฎหมายสากล

แม้ว่าหัวหน้ารัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้ออกคำสั่งให้จับกุมผู้เคลื่อนไหวเหล่านี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นข้าราชการของรัฐ ไม่ใช่องค์กรอิสระที่จะตัดสินใจดำเนินการใดๆ ได้เอง ล้วนต้องทำงานสนองนโยบายของรัฐ และทำตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด

เมื่อมีกฎหมายอยู่หลายข้อ ทั้งที่เปิดกว้างและจำกัดสิทธิ รัฐบาลต้องเป็นผู้กำหนดแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการในช่วงเวลานั้นๆ

 

เมื่อไม่นานมานี้ นายกรัฐมนตรีอ่านถ้อยแถลงว่า เราต้องแบ่งปันความคิดซึ่งกันและกันได้ และเราต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงมุมมองแลสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาเพื่อช่วยประเทศ

แต่ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับจับกุมดำเนินคดีกับผู้มีความคิดเห็นทางการเมือง

พร้อมกับที่รัฐบาลเรียกร้องให้กลุ่มผู้เคลื่อนไหวหลีกเลี่ยงการยุยั่ว ปลุกปั่น อันจะเป็นเหตุในการสร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่าย ก่อให้เกิดการปะทะและเผชิญหน้ากัน

ข้อเรียกร้องนี้สะท้อนว่า รัฐบาลกำลังขอในสิ่งที่ขัดแย้งกับเรื่องที่พูดไป

แทนที่จะควบคุมหรือปรามกลุ่มที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรง กลับตีความถึงการแสดงความเห็น ว่าเป็นการยั่วยุปลุกปั่น

 

ภารกิจสำคัญที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐต้องมุ่งทำหน้าที่คือการคุ้มครองสิทธิของประชาชน ไม่ให้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง จากฝ่ายที่เห็นไม่ตรงกัน

การรักษาความสงบและความปลอดภัยด้วยการยึดหลักไม่ใช้ความรุนแรง มีแต่จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น และตัดสินใจได้ดีขึ้น

ขณะเดียวกันยังช่วยดำรงสถานะความเป็นกลางของเจ้าหน้าที่ มากกว่าเป็นคู่กรณีของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดสภาวะที่ประชาชนตั้งคำถามว่าเหตุใดจับผู้คิดเห็นแตกต่างได้ แต่จับคนที่ทำร้ายผู้เห็นต่างกับรัฐบาลไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน