ให้มันจบที่รุ่นนี้ – เหตุโศกสลดของน้องมิ้นท์ นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตด้วยอาการช็อกหมดสติ หลังถูกรุ่นพี่สั่งซ่อมให้วิ่งรอบสนาม เป็นเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาอีกครั้ง

เช่นเดียวกับกรณีน้องเมยเสียชีวิตเป็นปริศนา เมื่อปี 2560 ที่โรงเรียนเตรียมทหาร แม้ผลสอบของคณะกรรมการสอบสวนของกองทัพระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ถูกรุ่นพี่สั่งลงโทษ แต่เป็นเพราะหัวใจล้มเหลวเอง

รวมถึงกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้อีกมากที่รุ่นพี่ใช้กำลังหรือใช้คำสั่งลงโทษรุ่นน้องจนถึงแก่ความตาย
จนเป็นคำถามทุกครั้งว่าโศกนาฏกรรมเช่นนี้จะเป็นกรณีสุดท้ายได้หรือยัง
หากเป็นนาทีนี้จะตรงกับวลีที่เยาวชนกลุ่มใหญ่ใช้ชุมนุมว่า “ให้มันจบที่รุ่นเรา”

โศกนาฏกรรมของทั้งน้องมิ้นท์และน้องเมย ล้วนทำให้ครอบครัวและญาติมิตรเศร้าโศกเสียใจและเฝ้ารอคำตอบว่าสาเหตุใดที่ทำให้เยาวชนที่มีอนาคตสดใสต้องจบชีวิตด้วยวัยอันสั้น

แต่คำตอบจากฝ่ายราชการกลับไม่ได้ทำให้เกิดความกระจ่างที่ชัดเจน

การให้คำตอบไม่ได้เป็นลักษณะเดียวกับที่นักเรียนตั้งคำถามว่า ทำไมนักเรียนต้องถูกครูกล้อนผม หรือถูกใช้กำลังเมื่อแสดงออกจุดยืนทางการเมือง

สิ่งที่เกิดกับน้องมิ้นท์ น้องเมย และเยาวชนอีกมาก คือระบบการเมืองและสังคมที่ใช้อำนาจนิยมกดทับ ออกคำสั่ง และรุมรังแก จนเกิดโศกนาฏกรรมทั้งที่คาดคิดและไม่คาดคิด

ข้อเรียกร้องที่นักเรียนนิสิตนักศึกษามีต่อรัฐบาลและผู้ใหญ่ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นหยุดข่มขู่คุกคาม ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุบสภา ล้วนมีจุดหมายเดียวกัน

นั่นคือการสร้างความถูกต้องชอบธรรมและยุติธรรมเพื่อที่สังคมจะรุดหน้า สร้างสรรค์

ไม่ถูกครอบด้วยหลักการผู้ใหญ่ถูกเสมอเพราะอาบน้ำร้อนมาก่อน หรือเด็กดีคือเด็กที่เชื่อฟัง เด็กก้าวร้าวคือเด็กที่กล้าขัดคำสั่ง

สังคมจะได้พัฒนาอย่างเต็มที่ ไม่เกิดระบบที่ส่งหนังสือเรียกตัวเด็กที่เสียชีวิตไปแล้วให้ไปรายงานตัวเกณฑ์ทหาร ซ้ำเติมความเสียใจให้ครอบครัว

และจะได้ยุติระบบรุ่นพี่สั่งลงโทษรุ่นน้องแบบใดก็ได้ เพราะถือว่าทำต่อๆ กันมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน