คอลัมน์ ใบตองแห้ง

‘ตู่’เครื่องด่า – โควิดรอบใหม่ ไม่ใช่รอบสอง ช่างสรรหาถ้อยคำมาใช้ร้อนตัวเกินไปหรือเปล่า ยังไม่ทันมีใครว่าอะไร ก็รีบ ปัดป้อง

“โควิดกระจอก” ก็พอเข้าใจ ไม่อยากให้ประชาชนกังวล เดี๋ยวจะไม่กล้าท่องเที่ยวใช้จ่าย แต่การที่รัฐมนตรีท่องโซเชี่ยลไปประปากชาวบ้าน “หมาไม่เข้าใจคน” ซ้ำพอคิดว่าเขาเป็นหมอใต้บังคับบัญชา ก็บอกจะไปหา ให้มารอรับ นี่สมควรโดนทัวร์ลง กร่างมาจากไหน ผลงานก็งั้นๆ เป็นเรื่องของหมอพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่รัฐมนตรี

รัฐบาลนี้ทำงานด้วยปาก พอเกิดปัญหา ก็ต้องหาที่ด่า “ไอ้คนชั่ว ยังไงมันก็ชั่ว ต้องหาคนชั่วให้เจอ” ชี้หน้าคนเลวไม่กี่คน เห็นแก่ตัว สร้างปัญหาให้คนเป็นล้านๆ ประกาศจะกวาดล้างขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศให้สิ้นซาก

มาดขึงขัง ซูเปอร์ฮีโร่ กองเชียร์ปลาบปลื้ม ลืมคิดไปว่าใครบริหารประเทศมาเกือบ 7 ปี มีปัญหาก็ซุกไว้ใต้พรม พอเกิดเรื่องขึ้นมาก็ปัดความรับผิดชอบ ด่าคนเลว เทศนาสั่งสอน มีแต่ตัวเองเป็นคนดี เรียกร้องประชาชน ต้องรับผิดชอบร่วมกัน โลกออนไลน์จึงด่าขรม แล้วจะมีรัฐบาลไว้ทำไม

ที่ประชุม ครม.รุมตำหนิ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ยอมรับว่ามีแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายร่วมสี่แสนคน เรื่องใหญ่อย่างนี้ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น โทษผู้ว่าฯคนเดียวได้หรือไร

ปัญหาแรงงานต่างชาติถูกซุกไว้ใต้พรม อย่างที่ทิม พิธา, กรณ์ พรรคกล้า ก็พูดคล้ายกัน หลังปิดด่านชายแดนมีแรงงานตกค้างจำนวนมาก ใบอนุญาตหมดอายุ นายจ้างเลิกจ้าง กลายเป็นแรงงานเถื่อน ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ แออัด เข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุข การจะนำแรงงานเข้ามาก็มีปัญหายุ่งยาก ด้วยระบบราชการ ค่าใช้จ่ายในการคัดกรองสูงมากราว 2 หมื่นบาทต่อคน ก็จึงเกิดจ่ายสินบนหรือลักลอบข้ามตามเส้นทางธรรมชาติ

สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือรีบประกาศให้แรงงานผิดกฎหมายมาลงทะเบียน เข้าสู่การคัดกรอง แต่พอประกาศขึงขังขู่จับกุมกวาดล้าง ก็เกิดกรณีนายจ้างเอาคนงานไปทิ้ง ซึ่งถ้าเขาติดเชื้อจริง ก็ยิ่งเสี่ยงแพร่กระจาย

อันที่จริงเรายังไม่รู้เลยว่า โควิดเกิดจากแรงงานต่างชาติ หรือเขาติดจากคนไทย แต่แพร่กระจายเร็วเพราะอยู่อย่างแออัด จึงไม่ควรรังเกียจกีดกันแรงงานต่างชาติ ในระยะยาวก็ยอมรับเถอะว่า เศรษฐกิจไทยต้องพึ่งแรงงานพม่าเขมรลาว อำนวยความสะดวกให้เขาเข้าออกได้ง่าย ดีกว่าตั้งเงื่อนไข ยุ่งยากแล้วกลายเป็นช่องทางทุจริตของเจ้าหน้าที่

โควิดรอบใหม่ รัฐบาลเจอ dilemma เพราะใกล้ปีใหม่ อยากกระตุ้นเศรษฐกิจให้ท่องเที่ยวใช้จ่าย จึงพยายามลดความตื่นตระหนกของผู้คน ไม่ใช้มาตรการเกินจำเป็น แล้วประยุทธ์ก็โวยวาย ยัวะโลกโซเชี่ยลโพสต์โควิดระบาดที่นั่นที่นี่ “คนไทยหรือเปล่า”

อ้าว ก็ข่าวมันโผล่ทุกวัน จังหวัดนั้นจังหวัดนี้ เชื่อมโยงตลาดอาหารทะเล รถพุ่มพวง เข้าซอยออกซอย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ มหาชัยใกล้แค่นี้เอง นิดเดียวก็บางบอน จะไม่ให้คนตกใจได้ไง

รัฐบาลเองนั่นแหละ สร้าง mindset แห่งความกลัวตั้งแต่ระบาดรอบแรก ไปเชื่อหมอบางกลุ่มที่กระพือว่าจะมีคน ติดเชื้อถึงสามแสนห้า ตายเจ็ดพัน แล้วก็ออกมาตรการ ตื่นตูม ปราบโควิดแบบทหาร ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ฆ่าไวรัส ฉิบหายเท่าไหร่ช่างมัน

ไม่ต้องดูอื่นไกล คอนเสิร์ต Big Mountain แค่มีข่าวคนมาจากเชียงใหม่ป่วย ผลตรวจไม่ใช่โควิดด้วยซ้ำ ก็อ้างว่าคนแออัด ไม่ใส่หน้ากาก สั่งยกเลิกทันที (นี่ว่าตามคำชี้แจงของรัฐบาล ที่ท่านว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง)

โควิดรอบแรกที่เอาอยู่ ก็เพราะกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค อสม. ฝ่ายปกครอง ร่วมกันสอบสวนติดตาม แล้วประชาชนทุกคนก็ป้องกันตนเอง แต่เอาไปคุยว่าประยุทธ์ เก่งที่สุดในโลก ทั้งที่สิ่งที่รัฐบาลทำ เช่นฉุกเฉินเคอร์ฟิว ห้ามขายเหล้าเบียร์ ปิดจังหวัดเป็นรัฐอิสระ ฯลฯ เป็นมาตรการรุงรัง เสียมากกว่าได้

รอบนี้ถ้าประชาชนจะเชื่อมั่น ก็คือเชื่อหมอ เชื่อกระทรวงสาธารณสุข และทุกคนมีความรู้พอที่จะป้องกันตัวเอง ไม่ใช่เชื่อประยุทธ์พูดอะไรไม่ทราบ แล้วเพิ่งรู้ว่า มีถ่ายทอดสด

คนไทยชินเสียแล้ว กับการมีผู้นำที่เอาแต่ปัดความ รับผิดชอบ โทษคนอื่น โทษนั่นโทษนี่ โทษประชาชน ไม่ร่วมมือ มีปัญหาก็ด่าๆๆ โลกออนไลน์เลยกลายเป็น เครื่องด่า โต้กลับบ้าง

เหมือน PM2.5 รู้อยู่แล้วว่าต้องเจอทุกปี แทนที่รัฐบาล จะเตรียมการ ก็ด่ารถควันดำด่าชาวบ้านเผาหญ้า เรียกร้องประชาชนให้งดใช้รถส่วนตัว แล้วเอาทหารมาฉีดน้ำให้เฮฮา ว่ามีผลงาน

อะไรที่พอจะสำเร็จ ก็ฉกฉวยเป็นพระเอก แบบคนละครึ่ง ลอกอังกฤษมาชัดๆ อังกฤษแจกถ้วนหน้า คนไทยต้อง แย่งกันชิงโชค แล้วยังคุยว่าคิดเอง

อย่าลืมว่าม็อบปลดแอก นัดครั้งแรก 18 ก.ค. ที่คนไปล้นหลาม ก็มาจากความไม่พอใจรัฐบาลเรื่องทหารอียิปต์ที่ระยอง บริหารประเทศอย่างนี้ แล้วยังคุยว่าม็อบแผ่ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน