คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
รัฐต้องมีแผนระยะยาว – คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการเราชนะ ด้วยการแจกเงินจำนวน 3,500 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ภายใต้งบประมาณจำนวน 2.102 แสนล้านบาท
ให้คนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ประมาณ 31.1 ล้านคน ยกเว้น ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33
นอกจากนี้ ยังต้องไม่มีรายได้พึงประเมิน ไม่เกิน 3 แสนบาท ในปี 2562 และต้องไม่มีเงินฝากในบัญชีทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 5 แสนบาท
เงินนี้ไม่สามารถเบิกจ่ายเป็นเงินสดได้ ใช้ได้เพียงในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการหรือบัตรคนจนนั้น จะได้รับสิทธิด้วยกันทั้งหมดโดยอัตโนมัติ รวมถึงประชาชนที่มีฐานข้อมูล แอพพลิเคชั่น เป๋าตัง เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ก็ไม่ต้องลงทะเบียน
สำหรับพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการร้านค้าย่อย แม้จะอยู่ในโครงการคนละครึ่ง แต่มีรายได้น้อย ถ้าเข้าเกณฑ์ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเช่นเดียวกัน รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ผู้ส่ง อาหารเดลิเวอรี่ ก็สามารถลงทะเบียนรับสิทธิได้
ส่วนโครงการคนละครึ่ง ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้เปิดลงทะเบียนรับสิทธิอีกครั้ง ซึ่งเป็นรอบเก็บตกในวันที่ 20 มกราคม รวมทั้งสิ้น 1.34 ล้านสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ที่กระทรวงการคลังเปิดไว้
จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมจนถึงวันที่ 31 มีนาคม
อย่างไรก็ตาม มาตรการทั้งหมดนี้ เป็นความช่วยเหลือจากรัฐบาลในช่วงระยะเวลาสั้นๆ คือ 2 เดือนเท่านั้น ถ้าหากไม่สามารถควบคุมการระบาด อีกทั้งจัดหาวัคซีนมาให้บริการแก่ประชาชนได้ รัฐจะมีมาตรการระยะยาวอย่างไร
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ที่จะใช้มาตรการลดแลกแจกแถมแบบนี้ได้ตลอดไป การแก้ปัญหาที่ตรงจุดก็คือจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้ประชาชนประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน เพื่อช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไร
เท่าที่ติดตามการบริหารงานของรัฐบาลมาตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงบัดนี้ยังไม่พบว่ามีแผนงานและนโยบายในระยะยาวอย่างไร
ดังนั้น มาตรการต่อจากนี้ไปจึงต้องระดมสรรพกำลัง ทุน และงบประมาณแผนงานในอนาคตด้วย