ขอแผนใหม่รับมือ – ช่วงเทศกาลหยุดสงกรานต์ 2564 เป็นอีกช่วงที่ประชาชนวิตกกังวลเรื่องโรคระบาดโควิด-19 มากกว่าอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยว
ความหวังที่เทศกาลสงกรานต์จะเป็นช่วงฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเป็นอันว่าดับวูบเหมือนปีก่อน
ที่เพิ่มเติมมาในปีนี้คือการระบาดของเชื้อแพร่อยู่ในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานราชการ รวมถึงรัฐมนตรี
พร้อมกับเสียงวิจารณ์ของประชาชนต่อการบริหารจัดการของรัฐบาล หวนกลับมาโหมหนักอีกครั้ง
การรับมือของรัฐบาลจึงไม่ควรใช้แค่การตอบโต้เสียงวิจารณ์ แต่ต้องเป็นแผนงานใหม่ที่ต้องประกาศให้ประชาชนรับรู้ เข้าใจ และนำไปสู่การแก้ไขสถานการณ์ใหม่
แผนงานประการแรกที่ประชาชนย่อมต้องการทราบคือรัฐบาลจะควบคุมเชื้อให้ลดการระบาดรายวันลงอย่างไร
กรณีที่ศบค.แถลงชี้แจงว่า สาเหตุที่โรงพยาบาลเอกชนงดบริการตรวจหาเชื้อ เป็นเพราะมีข้อกำหนดเดิมที่ว่า หากตรวจพบเชื้อที่ไหนให้พักรักษาตัวที่นั่น จึงทำให้เตียงที่ให้บริการเกินกว่าศักยภาพที่จะรองรับได้
ตรงนี้ รัฐบาลจะหาทางออกให้โรงพยาบาลเอกชนทำอย่างไร เพื่อไม่ต้องแจ้งว่าน้ำยาตรวจหาเชื้อไม่เพียงพอ
กรณีที่ประชาชนเรียกร้องขอให้วัคซีนกระจายเข้ามาในประเทศ ผ่านการสั่งซื้อได้เองของโรงพยาบาลเอกชน รัฐบาลเพิ่งมอบหมายให้ตั้งคณะทำงานจัดหาวัคซีนทางเลือก มีสมาคมโรงพยาบาลเอกชนร่วมด้วย โดยกำหนดให้มีความชัดเจนภายใน 1 เดือน
ระหว่าง 1 เดือนนี้ นอกจากให้ประชาชนรอแล้ว มีทางออกอื่นอีกหรือไม่
สําหรับแผนงานสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือแผนรับมือเศรษฐกิจ หลังจากสภาพการณ์ล่าสุดนี้ทำให้เกิดบรรยากาศอึมครึมกลับมาอีกครั้ง
สิ่งที่ประชาชนถามกันขึ้นมามากตอนนี้คือ รัฐบาลยังมีเงินสำหรับบริหารการฟื้นฟูและเยียวยาอยู่หรือไม่ ถ้ามีควรแจกแจงให้ประชาชนอุ่นใจและเข้าใจว่า ควรเดินหน้าธุรกิจต่อไปอย่างไร มีข้อจำกัดอะไร มีความเดือดร้อนอะไรที่ต้องเผชิญ
เหมือนกับที่รัฐบาลประเทศต่างๆ บอกกับประชาชน แม้แต่รัฐเผด็จการอย่างเกาหลีเหนือก็ยังต้องแจ้งประชาชนว่ากำลังผจญกับสถานการณ์เศรษฐกิจและปากท้องที่ย่ำแย่
สถานการณ์นี้รัฐบาลต้องเปิดแผนไม่ใช่แค่แนะนำให้เลี่ยงสถานที่อโคจร นั่นไม่เพียงพอ