ลดความสูญเสีย : บทบรรณาธิการ

ภาพรวมสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดในไทย การติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูงและคงตัวอยู่ รัฐบาลระบุว่าการคงตัวมีปัจจัยส่วนหนึ่งเกิดจากมาตรการที่เข้มข้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม

ทุกวันนี้ยอดติดเชื้อใหม่รายวันเกินวันละ 20,000 คน และเสียชีวิตวันละ 200 ราย

จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อของไทยใกล้เคียงกับประเทศยุโรปที่มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกันอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส และมีตัวเลขค่อยๆ ลดลงมาอยู่ระดับวันละสองหมื่น หลังเพิ่มขึ้นช่วงสายพันธุ์เดลตาระบาด

แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันของสองประเทศนี้ยังอยู่ในระดับหลักสิบ เมื่อเทียบกับไทยที่สูงเกินวันละ 200

ความแตกต่างนี้มาจากปัจจัยอัตราการฉีดวัคซีนอย่างเห็นได้ชัด

ความสูญเสียชีวิตในแต่ละวันหมายถึงความโศกเศร้าสะเทือนใจในครอบครัวและญาติมิตรของแต่ละคน ในที่นี้รวมถึงเคสหญิงตั้งครรภ์กว่า 30 ชีวิตที่ควรจะได้สร้างชีวิตใหม่กลับต้องจากไปทั้งแม่และทารก

มาถึงตอนนี้ที่มีการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นแล้ว จึงเกิดคำถามว่า ประเทศไทยจะลดความสูญเสียนี้ลงอย่างไร

ศบค.คาดการณ์ถึงช่วงเวลาระทึกปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน ว่าหากมีการล็อกดาวน์แบบมีประสิทธิภาพร้อยละ 20 เหมือนที่เป็นอยู่จะมีผู้ติดเชื้อวันละประมาณ 45,000 คน เสียชีวิตประมาณวันละ 500 คน

แต่หากไม่ล็อกดาวน์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงถึง 6-7 หมื่นคน ผู้เสียชีวิต 800 กว่าคน

สถิติที่ศบค.รวบรวมไว้ ช่วงเดือนพ.ค. ถึงส.ค.นั้นชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน อีกทั้งยังระบุเองว่า สิ่งที่ป้องกันการเสียชีวิตได้คือการฉีดวัคซีน

แต่ปัญหาความวุ่นวายเกี่ยวกับวัคซีนไม่ได้อยู่ที่ว่ากลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ หรือคนกลุ่มอื่นๆ เลี่ยงฉีด หรือต่อต้านวัคซีน

แต่การจัดหาและแจกจ่ายวัคซีน ไปจนถึงจังหวะเวลาที่ไม่ควรล่าช้า ล้วนเป็นเรื่องที่รัฐบาลเองย่อมรู้ดี

ดังนั้นแทนที่จะเปิดตัวเลขประเมินการติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างเดียว ควรเปิดแผนที่จะลดความสูญเสียเหล่านี้ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน