FootNote:แนวโน้ม ยุบสภา มีความแจ่มชัด รัฐบาล ‘ประยุทธ์’ อยู่ไม่ครบวาระ
ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากสมุทรปราการไปยังชัยนาท และเตรียมเยือนชลบุรี ปราจีนบุรี เพื่อตรวจราชการพร้อมกับพบปะส.ส.
เด่นชัดยิ่งว่าเป็นสัญญาณในทางการเมืองละม้ายเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในห้วงนับแต่ปี 2561
ตระเตรียมไปสู่สนามเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562
ไม่ว่าจะเป็นการออกคำสั่งพรรคพลังประชารัฐลงนามโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงนามแต่งตั้งให้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์
เด่นชัดยิ่งว่าเป็นสัญญาณ เพื่อตระเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะบทบาทและความหมายในทาง ‘ยุทธศาสตร์’ ของพรรคย่อมเป็น ‘การเลือกตั้ง’
สัญญาณเหล่านี้เริ่มจากเมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ในที่ประชุมรัฐสภา อันเท่ากับการกำหนดกติกาเลือกตั้งเรียบร้อย จำเป็นต้องมีการเคลื่อนไหวเพื่อรองรับกับสถานการณ์ใหม่ที่จะตามมา
นั่นก็คือ สถานการณ์แห่งการต่อสู้ สถานการณ์แห่งการเลือกตั้ง
อย่าได้แปลกใจหากจะเป็นมติจากพรรคเพื่อไทย สำแดงความพร้อมเต็มเปี่ยมที่จะขับส.ส. ‘งูเห่า’ ที่เอาใจออกหากบางคนให้ออกจากพรรคไปอย่างเต็มที่
ทางหนึ่งเพื่อเปิดโอกาสให้ ‘งูเห่า’ เหล่านั้นเลื้อยไปหาพรรคใหม่ อีกทางหนึ่งเพื่อสรรหาผู้สมัครคนใหม่
มาตรการเฉียบขาดเช่นนี้ ไม่เพียงแต่สำแดงให้ประจักษ์ถึงความพร้อมที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง หากที่สำคัญพรรคเพื่อไทย ย่อมกระสาต่อ ‘สัญญาณ’ จากความจัดเจนในทางการเมือง
สังคมจึงได้เห็นไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ล้วนออกเดินสายไปในพื้นที่เป้าหมายของตนเอง
พร้อมกับประกาศเปิดตัว ‘ผู้สมัคร’ ของตนด้วยความคึกคัก
มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่าสถานการณ์ใหม่ในทางการเมืองต้องอุบัติขึ้นอย่างช้าที่สุด ก็ไม่น่าจะเกินครึ่งแรกของปี 2565 ไม่ว่าจะมองจากด้านของรัฐบาล ไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรคร่วมรัฐบาล
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่น่าจะดำรงอยู่ครบวาระ
ความไม่แน่นอนในที่นี้อยู่ที่ว่าจะดำเนินการก่อนผลการแก้ไขรัฐธรรมนูญบังคับใช้ หรือว่าจะชิงทำแท้งก่อนสถานการณ์บานปลาย
ทุกอย่างอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา