FootNote:สถานการณ์ปลด ธรรมนัส พรหมเผ่า เส้นแบ่งรัฐบาล กับ ‘พลังประชารัฐ’
หากพิจารณารายชื่อการปรับครม. อันปรากฏขึ้นภายหลังสถานการณ์การปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน เป็นต้นมา
ก็จะจับ ‘ความนัย’ ซึ่งสะท้อน ‘รากฐาน’ อันเป็นที่มาแห่งการนำเสนออย่างเด่นชัดว่าเป็นของกลุ่มใด ผู้ใด
เริ่มจากชื่อของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ เด่นชัดยิ่งว่า เป็นการผลักดันอันสะท้อนความต้องการจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
ขณะที่รายชื่อของ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และนายไผ่ ลิกค์ เด่นชัดยิ่งว่าเป็นการผลักดันอันสะท้อนความต้องการจากภายในพรรคพลังประชารัฐ
ขณะเดียวกัน ก็ปรากฏรายชื่อของ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ประสานเข้ากับรายชื่อของ นายณัฐพล โพธิพิพิธ แทรกแปลกแปร่งมา
แม้จะมีเป้าหมายฉายชี้ให้เห็นว่าเป็นการเสนอและความต้อง การจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น ส่งตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่เป้าหมายในการปล่อย 2 ชื่อหลังนี้มากด้วย ‘หลุมพราง’
แท้จริงแล้ว รายชื่อที่จะต้องนำไปพิจารณากันอย่างจริงจังจากทั้ง 2 ฝ่าย น่าจะเป็นรายชื่อจากทำเนียบรัฐบาล และรายชื่อจากพรรคพลังประชารัฐมากกว่า
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ 2 รัฐมนตรีที่ถูกปลด เป็นรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ สิทธินี้จึงน่าจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ
เพียงแต่ทางด้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยการหารืออย่างใกล้ชิดของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็มีความต้องการที่จะจัดระเบียบภายในครม.เช่นเดียวกัน
การปะทะระหว่างชื่อในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับชื่อในมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงเกิดขึ้น
เท่ากับเป็นการทดสอบและประลองพลังในทางการเมือง
ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมีความต้องการหรือไม่ก็ตาม แต่จุดตัดอย่างสำคัญเริ่มจากสถาน การณ์เมื่อวันที่ 8 กันยายน
พลันที่มีการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจาก ‘รัฐมนตรี’
นั่นย่อมเป็นวินาทีสำคัญที่นำไปสู่การปะทะและขัดแย้งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ความขัดแย้งไต่ระดับจากการปะทะ ประลองพลังทางการเมือง