ม็อบ-คฝ.ถูกยิง
คอลัมน์บทบรรณาธิการข่าวสด
ม็อบ-คฝ.ถูกยิง – ปฏิบัติการควบคุมฝูงชนบริเวณแยกดินแดงที่มีการใช้ความรุนแรงดำเนินมาพักใหญ่นับตั้งแต่กลางปี
ปรากฏชัดวันที่ 16 ส.ค. มีผู้ชุมนุมวัย 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ถูกยิงกระสุนปืนฝังอยู่ที่บริเวณก้านสมอง
จากนั้นค่ำวันที่ 6 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนนายหนึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนยิงศีรษะบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน
นอกจากทั้งสองคนนี้ยังมีเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบางคนบาดเจ็บมาตลอด ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายผู้ประท้วงที่มีอาวุธเป็นรองเจ้าหน้าที่
การลำดับความรุนแรงดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าทั้งสองฝ่ายแรงพอกัน หรือฝ่ายใดแรงกว่าฝ่ายใด แต่ควรเป็นคำถามว่า รัฐพร้อมจะยุติความรุนแรงนี้ได้หรือยัง
การยุติความรุนแรงที่แยกดินแดงไม่ควรจะเป็นแค่คำแถลงของฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีรายละเอียด ระบุเพียงว่าพยายามให้เกิดความสงบได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
ถ้าคิดว่าความสงบจะเกิดได้จากการกวาดจับ ดำเนินคดี หรือการใช้อาวุธตอบโต้ให้เข็ดหลาบ หวาดผวา โดยอาศัยกฎหมายควบคุมโรคมาควบคุมการประท้วง
แนวทางลักษณะนี้แก้ไขปัญหาไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะสภาพสังคมที่เหลื่อมล้ำ และความขุ่นเคืองสภาพทางการเมือง ยังคงเป็นเชื้อเพลิงให้ความขัดแย้งลุกไหม้ต่อไปเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับการใช้งบประมาณที่ทุ่มให้กับอาวุธ อุปกรณ์จำนวนมาก รวมถึงงบการซ่อมแซมรถจีโน่ล่าสุดที่สูงถึง 47 ล้านบาท จะงอกเงยต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
ข้อเสนอล่าสุดจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกถึงแนวโน้มการใช้ความรุนแรงเข้าปะทะระหว่างสองฝ่ายที่รุนแรงมากขึ้น
นอกจากขอให้สองฝ่ายอดทนอดกลั้น ระงับความรุนแรงยังมีข้อเสนอให้ทุกฝ่ายสนับสนุนให้มีเวทีกลางในการเจรจาแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ
โดย กสม.พร้อมมีส่วนร่วมสนับสนุนในกระบวนการแสวงหาทางออกอย่างสันติ ให้ ผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ของรัฐควรมีโอกาสพูดคุยกันและรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน
ทางออกที่ กสม.เสนอมานี้ เป็น แนว ทางประชาธิปไตยที่รัฐบาลควรคิดพิจารณาและตอบสนองให้เร็ว เพื่อห้ามกระสุนนัดต่อไป