จังหวะ บาทก้าว ของ ไพรวัลย์ วรรณบุตร เปี่ยมด้วย “สติ”

สังคมมักมองกระบวนท่าของ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร คือเงาสะท้อนแห่ง “ความละอ่อน”
ละอ่อนในทาง “โลก” เพราะติดอยู่ในแวดวง “ดงขมิ้น” ยาวนานตั้งแต่บรรพชาเป็น “สามเณร” กระทั่งอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” ต่อเนื่องกัน 17 ปี
เมื่อสึกหาลาพรตจึงเหมือนกับ “สมันน้อย” ไม่รู้ความ
เมื่อประสบเข้ากับสังคมหลอกลวงซึ่งติดอยู่กับชื่อเสียง “จอมปลอม” ทั้งในแวดวงโซเชี่ยลและกระแสแห่งทุนที่ดาหน้าเข้ามาหาประโยชน์
จึงเก้ๆ กังๆ “วางตัว” ไม่ถูก

หากมองจากภาพแห่งความเคยชินที่เห็นผู้คนในสังคม “จอมปลอม” ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น
แต่ถามว่าคนอย่าง นายไพรวัลย์ วรรณบุตร ไม่รู้ “ความ” อะไรเลยหรือ ป้ำๆ เป๋อๆ ถูกหลอกไปทางซ้าย แล้วย้ายไปหลอกทางขวาอย่างนั้นหรือ
ไม่ใช่หรอก นายไพรวัลย์ วรรณบุตร มิได้เป็นเช่นนั้น
ไม่ว่าจะแรกสึกแล้วถูกนินทาว่าควงสาว หรือการไม่ยอมระบุ “เพศสภาพ” ของตนอย่างเด่นชัด มิใช่เพราะกลอนพาไป หากแต่เป็นไปอย่างมี “สติ” ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นไปตาม “ปฏิรูปเทสวาสะ”

ยิ่งกรณีอันอึกทึกครึกโครมต่อการเดินออกจาก “นินทาประเทศไทย” อย่างชนิดกลางคัน
เหมือนกับ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร ทำตามอารมณ์ ขาด “วุฒิภาวะ” ในแบบ “มืออาชีพ” จึงหุนหันพลันแล่นอย่างที่มีการกล่าวหากัน
ทุกอย่างเป็นเรื่องที่มีการบอกกล่าว เจรจากันแล้ว “ล่วงหน้า”
ประเด็นอยู่ที่ว่า “นินทาประเทศไทย” ออกมาให้ข้อมูลครบถ้วนกระบวนความ หรือเป็นไปอย่างชนิด “ตัดตอน” เพราะหวังผลทาง “การตลาด” เท่านั้น
นี่เป็นเรื่องที่สังคมจะต้องเสาะหาและเสริมเติม “ข้อมูล”

แท้จริงแล้ว คนระดับ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร กระทำทุกเรื่องอย่างมีสติเปี่ยมสัมปชัญญะ
ศึกษามาได้ถึงระดับ “เปรียญธรรม 9 ประโยค” มิได้เป็นเรื่องของภาษาอย่างเดียว หากแต่ย่อมดำเนินไปบนพื้นฐานแห่ง “พระคัมภีร์” อย่างเจนจบ
ย่อมยึดกุมปัจฉิมโอวาทว่าด้วย “ความประมาท” มาแล้วเป็นอย่างดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน