FootNote : แนวการเมือง ก้าวไกล พิธา สร้างจุดต่าง พรรคการเมือง
จังหวะก้าวทางการเมืองของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นับแต่ได้รับคืนสมาชิกภาพแห่ง สส. จากคำวินิจฉัยของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 24 มกราคม น่าจับตา
ไม่ว่าจะเป็นการเปล่งคำ “ผมกลับมาแล้ว” เรียนต่อประธานเมื่อเข้าร่วมประชุมในญัตติอันเกี่ยวกับการจัดการ “ขยะ”
สังคมการเมืองอาจพุ่งเป้าไปยังความสนใจอย่างเป็นพิเศษกระทั่งกลายเป็นการขี่และไต่ระดับของ “กระแส” ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และ”สื่อ”
หากวัดจากความวูบวาบอันเปล่งประกายออกมาจาก “แฟลช” และปริมาณไมโครโฟนที่ยื่นเข้าไปหา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ต้องยอมรับว่าดำเนินไปอย่างคึกคัก หนาแน่น ท่วมท้น
เป็นคำถามอันดังขึ้นไม่ว่าจะจากสำนักข่าวในประเทศ ไม่ว่าจะจากสำนักข่าวต่างประเทศ ภาพที่เห็นอย่างที่เคยปรากฏในห้วงก่อนและหลังการเลือกตั้งได้หวนกลับมาอีกครั้ง
กระนั้น ที่ควรให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษน่าจะเป็นแต่ละจังหวะก้าวอันพรรคก้าวไกลกำหนดให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้เล่นในลักษณะซึ่งเป็น “กองหน้า” มากกว่า
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คือเงาสะท้อนแห่งพรรคก้าวไกล
งานแรกก็คือการแถลงรายละเอียดแผนงานของพรรคก้าวไกลตลอดทั้งปี 2567 ไม่ว่างานในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่างานนอกสภาผู้แทนราษฎร
แต่ละรายละเอียดที่ปรากฏเป้าหมายก็เพื่อสร้าง “ความต่าง” ไปจากพรรคการเมืองอื่นอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เองก็ลงมือปฏิบัติอย่าง ชัดเจนด้วยการใช้เวลาเพียงไม่เกิน 15 นาทีอภิปรายในเรื่องแนวคิดในเรื่องการจัดการกับขยะ
คำว่า “ผมกลับมาแล้ว” จากปาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เห็นได้จากกระบวนการนำเสนออันทำให้เกิดนัยประหวัดไปยังคำอภิปรายยาวเหยียดในเรื่อง “กระดุม 5 เม็ด”
จากนั้น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ลงพื้นที่โดยยึดเอาเชียงราย เป็นจังหวัดแรกในการเชื่อมประสานในทางการเมือง
นี่ย่อมเป็น “สัญญาณ” ถึงแผนงาน “ดับไฟป่า” ในภาคเหนือ
หากมองอย่างเปรียบเทียบกับพรรคการเมือง “อื่น” ไม่ว่าจะในอดีต หรือที่เห็นในปัจจุบันก็จะสัมผัสได้ใน “ความต่าง” อย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นแผนระยะสั้น แผนระยาว ล้วนได้รับการเปิดเผย ยืนหยัดอย่างแน่วแน่และมั่นคงว่า พรรคก้าวไกลต้องการอะไรในทางความคิด ในทางการเมือง และทุกก้าวย่างล้วนประกอบส่วนและรวมศูนย์ไปยังยุทธศาสตร์
พรรคก้าวไกลต่อสู้ในหนทางแห่งระบบรัฐสภา ต้องการชัยชนะอันชี้ขาดกันผ่านกระบวนการของการเลือกตั้ง
เบื้องหน้าย่อมเป็นการเลือกตั้งระดับ “ท้องถิ่น”