“บิ๊กตู่” ร่ายยาว ชั่วโมงครึ่ง เสนองบ 3 ล้านล้าน ยันทำทุกอย่างดีที่สุด แต่ปัญหาอยู่ที่คน ยันไม่ได้ให้แบบส่งเดช แนะ เลือกนายกฯต้องซื่อสัตย์ มีคุณธรรม เตือนด่านายกฯระวังๆหน่อย ลั่นอยากรักษาตำแหน่งนี้ให้มีเกียรติ

‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาว เสนองบ ‘3ล้านล้าน!’ ขู่กลางสภา ‘ด่าผม..ระวังหน่อยแล้วกัน!’

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช เป็นประธานประชุม พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 3,000,000,000,000 บาท (สามล้านล้านบาท) โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. แถลงหลักการของงบประมาณ โดยก่อนเข้าเนื้อหา นายกฯ ได้พูดกับสมาชิกสนช.ว่า “ขอเชิญสมาชิกเข้ามาฟังในห้อง ผมนับๆดูแล้วไม่น่าถึงตามจำนวน ขอให้จริงใจในการทำงานกันด้วยนะครับ” ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิก สนช.ลงชื่อจำนวน 219 คน จาก 246 คน ทั้งนี้นายกฯ ได้ใช้เวลาชี้แจงประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาว เสนองบ ‘3ล้านล้าน!’ ขู่กลางสภา ‘ด่าผม..ระวังหน่อยแล้วกัน!’

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2562 ที่ตั้งไว้ จำนวนไม่เกิน 3,000,000,000,000 บาท เป็นการดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล โดยกำหนดรายได้สุทธิ จำนวน 2,550,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 450,000 ล้านบาท เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ได้มีงบประมาณปี 62 สำหรับใช้เป็นหลัก ในการจ่ายเงินแผ่นดิน และงบประมาณที่รัฐบาลนำเสนอ เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนประเทศให้ไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มีความสอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และมีความสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 กรอบแนวคิด การพัฒนาประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ และนโยบายรัฐบาล รวมทั้งได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการจัดสรรงบประมาณ ปัจจุบันฐานะเงินคงคลัง ณ วันที่ 31 พ.ค. 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 317,166 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะบริหารเงินคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และบริหารรายรับและรายจ่ายของรัฐให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นไปตามพ.ร.บ.การเงินการคลัง

‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาว เสนองบ ‘3ล้านล้าน!’ ขู่กลางสภา ‘ด่าผม..ระวังหน่อยแล้วกัน!’

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า งบประมาณฯ จำแนกตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ได้แก่

  • 1.ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 329,239.6 ล้านบาท
  • 2.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย ไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 406,496 ล้านบาท
  • 3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย ไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 560,884.9 ล้านบาท
  • 4.ยุทธศาสตร์ด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างการเติบโตจากภายใน รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย ไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 397,581.4 ล้านบาท
  • 5.ยุทธศาสตร์ด้านการจัดการน้ำและสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย ไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 117,266 ล้านบาท
  • 6.ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย ไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 838,422.2 ล้านบาท

นายกฯ กล่าวว่า เมื่องบประมาณมีวงเงินสูงขนาดนี้ หลายคนบอกว่าอาจจะมีการทุจริตอีก ตนถามว่าถ้าคิดอย่างนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ ต้องมองว่างบประมาณวันนี้ทำครบหรือไม่ และเหมาะสมหรือไม่ แต่ถ้าบอกตั้งแต่แรกว่ามีงบประมาณมากแล้วจะเกิดทุจริต ก็คงทำอะไรกันไม่ได้ การทุจริตเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ต้องใช้กลไกในการตรวจสอบไปดำเนินการตามกฎหมาย รัฐบาลนี้ตรวจสอบทุกวัน ขออย่าให้ใครเอาไปใช้ประโยชน์ด้วยบิดเบือน แน่นอนว่าการทุจริตไม่ได้อยู่ที่ระบบหรือกฎหมาย แต่อยู่ที่คนทั้งสิ้น เราต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีหลักคิดที่ถูกต้อง ไม่ใช้ความรู้สึก การใช้กฎหมายต้องไม่สร้างภาระ ไม่ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ควร เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ดีก็มี เจ้าหน้าที่ที่ขี้โกงก็มี มันเป็นคนนะ อย่าโทษระบบแต่เพียงอย่างเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การใช้จ่ายงบประมาณสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การจัดการเป็นภาค เพราะแต่ละภาคมีศักยภาพที่แตกต่างกัน แต่ต้องหาวิธีการเชื่อมโยงด้วยโครงสร้างพื้นฐาน อย่างวันนี้ก็เริ่มไปเยอะแล้ว โดยเฉพาะดิจิทัลที่ต้องไม่มีสำเนาทะเบียนราษฎร์นี่คือสิ่งที่มันเกิดขึ้น กว่าจะเกิดขึ้นก็ต้องใช้เวลาถึง 40 เดือน ไม่ได้แค่ประชุมวันนี้พรุ่งนี้ ตนก็ตรวจทุกวัน ถ้าอันนี้ไม่เหมาะสม ตนก็สั่งให้ไปทำใหม่ ให้ไว้ใจกันตรงนี้

‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาว เสนองบ ‘3ล้านล้าน!’ ขู่กลางสภา ‘ด่าผม..ระวังหน่อยแล้วกัน!’

“ผมไม่ได้ให้ไปแบบส่งเดชไปเรื่อย ที่แบบว่าใครขอมาก็ให้ วันหน้าต้องเป็นแบบนี้ นายกรัฐมนตรีต้องเป็นแบบนี้ ต้องซื่อสัตย์ มีคุณธรรม ต้องดูให้ทั่วถึง ทุกโครงการต้องทำให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ทั้งการแก้ไขปัญหาในอดีต ปัจจุบัน และลงทุนเพื่ออนาคต มันจะยังไม่เกิดผลวันนี้ แต่ผมถามว่าที่ผ่านมาได้เคยลงทุนเพื่ออนาคตกันบ้างหรือไม่ วันนี้แสดงให้เห็นว่าทุกภาคได้เงินใกล้เคียงกัน เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ให้คนทั้งประเทศได้รับประโยชน์ ไม่ได้ให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันหน้ารัฐบาลที่พวกท่านคาดหวังกันต้องให้เขาทำให้ได้แบบนี้ก็แล้วกัน แต่ก่อนจะไปถึงการเลือกตั้ง เรามาคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมว่าพรรคการเมืองใดจะเสนอแนวทางการทำงานมากกว่าที่จะบิดเบือนต่อว่ากันไปกันมา แบบนั้นมันก็กลับที่เดิมทั้งหมด สร้างความเกลียดชังจนกระทั่งหาสาระไม่ได้ ขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ด้านการปฏิรูปประเทศ ได้ทำแผนและทำเป็นกฎหมายออกมาแล้ว การปฏิรูปประเทศไทย มีปัญหาเรื่องงบประมาณไม่เพียงพอและการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง ซึ่งต้องใช้เวลา เหมือนกับต่างประเทศเวลาปฏิรูปประเทศก็ใช้เวลาหลายปี อย่างจีนก็เปลี่ยนมาเป็นหนึ่งประเทศสองระบบ ถามว่าประเทศไทยทำแบบนั้นได้หรือไม่ ก็ทำไม่ได้ ระบบเดียวยังไม่ได้เลย เพราะมันทะเลากันไม่เลิกแบบไม่มีเหตุผล ไม่มีหลักการและไม่คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบบปากต่อปาก ในสื่อสังคมออนไลน์ มันเป็นสถานการณ์ที่สร้างความขัดแย้งและเป็นปัญหามา 10 ปีแล้ว มันต้องแก้วันนี้ ต้องแก้ให้ได้ก่อนการเลือกตั้ง และเป็นไปตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลง ขอให้ช่วยในการปฏิรูปด้วย เป็นต่างประเทศชื่นชมนักหนา วันนี้ยังเฆี่ยนคนอยู่เลย ตนไม่เอ่ยนาม ประชาชนเขากลัวด้วย กลัวกฎหมาย กลัวถูกเฆี่ยน แต่ประเทศไทยไม่กลัว เพราะประชาธิปไตย กลายเป็นถูกหรือเปล่าแบบนี้ และ คนรุ่นใหม่ต้องไร้ขีดจำกัด ทำลายทุกอย่างได้ รื้อทุกอย่างได้ นี่หรือคือคนรุ่นใหม่ ซึ่งความจริงจะสืบสาน รักษา ต่อยอด ตามรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ทำสิ่งใหม่ที่แย่ไปหมด ฝากไว้ด้วย

“รัฐบาลยู่มา 4 ปีแล้ว นี่เป็นปีที่4แล้วที่แถลง ส่วนตัวผมเองและคณะรัฐมนตรีก็เห็นว่าทุกอย่างมีการพัฒนาทั้งหมด ผมอยากให้ทุกคนช่วยอ่านหนังสือเรื่องการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เพื่อช่วยกันคิดว่าจะพัฒนาอย่างไรให้ประเทศไทยเดินหน้า ดังนั้นหวังว่าสนช.จะสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ และขอให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่อไปร่วมกันเดินหน้าประเทศไทยให้ถึงทุกกลุ่ม และต้องไม่ให้เกิดช่องว่างหรือความเหลื่อมล้ำเพื่อลดความยากจน ขอขอบคุณประธานสนช.และสมาชิกสนช. ถ้าผมพูดอะไรแรงไปก็ขอโทษด้วย ผมก็คือผม ความเป็นมนุษย์สูงหน่อย นายกรัฐมนตรี คือ ตำแหน่ง ดังนั้น จะมาหมิ่นตำแหน่งนายกฯไม่ได้ ถ้าจะด่าก็ด่าผมได้ แต่ถ้าผมเป็นนายกฯอยู่ เวลาด่าผมก็กรุณาระวังหน่อยแล้วกัน ตำแหน่งนายกฯเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ผมอยากรักษาให้ตำแหน่งนี้มีเกียรติ และต้องขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ร่วมทำงานมาอย่างสาหัส” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาว เสนองบ ‘3ล้านล้าน!’ ขู่กลางสภา ‘ด่าผม..ระวังหน่อยแล้วกัน!’

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน