วันที่ 16 ก.พ. ที่บ้านพักราชวิถี ซ.22 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมด้วยนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค ได้แถลงถึงข้อเสนอแนะของพรรคชาติพัฒนา ในประเด็นการหารือเพื่อสร้างความปรองดอง ต่อเวทีรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการเตรียมความพร้อมสามัคคีปรองดอง เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยนพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า พรรคได้เสนอเรื่องการสร้างความปรองดองก่อนการเลือกตั้ง ภายใต้หลักการของความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน และความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ด้วยการให้อภัยซึ่งกันและกัน และเมื่อดำเนินการสร้างความปรองดองแล้วควรจัดให้การเลือกตั้งตามโรดแมปที่กำหนด ที่สำคัญควรมีการตกลงร่วมกัน ให้พรรคการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งและยอมรับผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น และภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ทุกพรรคการเมืองควรร่วมมือกันทำงาน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ต้องไม่สร้างเงื่อนไขใดๆ ที่จะนำไปสู่ภาวะทางตันทางการเมือง

นอกจากนี้ยังเห็นว่าควรเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงแก่ผู้ที่กระทำความผิดฐานทุจริต โดยกระบวนการพิจารณาคดีต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว จึงเสนอให้มีศาลพิเศษ โดยเฉพาะพิจารณาคดีทุจริตเพียงอย่างเดียว เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวและเท่าเทียมกัน ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ควรมีทิศทาง ความยืดหยุ่น ปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกอย่างยั่งยืน และก่อนประกาศใช้ควรมีการเปิดเวทีเพื่อทำประชาพิจารณ์ เพื่อให้เกิดความยอมรับจากทุกฝ่าย ส่วนเรื่องการปฏิรูปพรรคเห็นว่าควรปฏิรูปเรื่องการศึกษาเป็นลำดับแรก

ด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า เราเสียโอกาสไปเยอะในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศทั้งๆ ที่โอกาสของประเทศไทยมีมากทุกด้าน ทั้งนี้ปัญหาความขัดแย้งหลักที่ผ่านมาคือความขัดแย้งทางการเมืองจนนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ พรรคชาติพัฒนาจึงเห็นด้วยและยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเพราะเห็นว่าวันนี้รัฐบาลเริ่มต้นในสิ่งที่ถูกต้องตรงปัญหาและการระดมความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้การสร้างความปรองดองสำเร็จต่อไป ซึ่งในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆควรหันหน้าเข้าหากัน

ซึ่งพรรคชาติพัฒนามีข้อเสนอ 7 ข้อที่อยากเห็นจากพรรคการเมือง ดังนี้ 1.ถ้าถึงช่วงเวลาเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง 2.ทุกพรรคต้องปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริต เป็นธรรม นำไปสู่การยอมรับผลการเลือกตั้ง 3.ทุกพรรคต้องช่วยกันคัดคนดีๆ มีความรู้ ความสามารรถ มาทำงานให้ประชาชน รวมถึงเสนอนโยบายที่เหมาะสม ยั่งยืนในการพัฒนาประเทศ 4.ทุกพรรคการเมืองต้องเคาระการตัดสินใจของประชาชน ด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้ง

5.เมื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคอยากเห็นการทำงานร่วมกันตามบทบาทหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน 6.อยากให้ทุกพรรคลืมอดีต ความขัดแย้งแล้วคิดถึงส่วนร่วมด้วยการลดเงื่อนไขต่างๆ และ7.หากในอนาคตเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองใดๆ วิธีที่ดีที่สุดคือนำประเด็นความขัดแย้งมาอยู่ในเวทีสภาผู้แทนราษฎร โดยใช้หลักการประชาธิปไตย

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจว่าการปรองดองในครั้งนี้จะสำเร็จ แม้ที่ผ่านมาจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายชุด แต่ก็เป็นเพียงการศึกษาหาข้อเสนอเท่านั้น แต่ในครั้งนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ที่สามารถนำผลไปปฏิบัติได้ จึงมีโอกาสสำเร็จสูงมาก ซึ่งการที่ตนมาร่วมในเวทีสร้างความปรองดองในครั้งนี้เพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคการเมืองหรือไม่ ประเทศเราเหมือนรถที่ติดหล่มมาสิบกว่าปีแล้ว ดังนั้นการปรองดองจะสำเร็จได้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน

“แนวทางของพรรคชาติพัฒนา อาจไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด แต่พรรคพยายามคิดจากประสบการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาที่ท่านมีแนวทางการปรองดองมานาน ตั้งแต่การเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า ซึ่งข้อเสนอต่างๆเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ว่าจะไปพิจารณาอย่างไร และพรรคพร้อมให้การสนับสนุนเรื่องการปรองดอง”นายสุวัจน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน