‘อภิรักษ์’ ย้ำตั้งใจท้าชิงหัวหน้า ปชป. ชี้ผลเลือกตั้งเป็นจุดเปลี่ยน จ่อเปิดตัวทีมหลัง 9 พ.ค.

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนยืนยันที่จะลงสมัครอยู่แล้ว และตั้งแต่มีชื่อของตนออกมาเป็นข่าวในเรื่องนี้ ตนไม่เคยปฏิเสธใดๆ โดยความตั้งใจมาลงสมัครครั้งนี้ เพราะเห็นว่าผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุด และสถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เปลี่ยนไป ทำให้พรรคจำเป็นต้องรับฟังกระแสสังคมหรือเสียงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกสมัยใหม่

นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า พรรคต้องใช้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นบทเรียนในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและสังคมในโลกยุคใหม่ ขณะที่ทุกคนในพรรคต้องกลับมาร่วมแรงร่วมใจทำงานด้วยกัน ตนไม่รู้สึกหนักใจในการแสดงความตั้งใจเข้ามากอบกู้พรรค

เมื่อถามว่าแสดงว่าผลการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตัดสินใจมาลงสมัครตำแหน่งนี้ใช่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้หันไปทำงานภาคธุรกิจค่อนข้างเต็มตัว นายอภิรักษ์ กล่าวว่า เป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งในการตัดสินใจ เพราะตนตั้งใจใช้เวลาไปทำธุรกิจที่ริเริ่มมานาน 5 ปีแล้ว แม้ตนไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ได้รับมอบหมายจากพรรคให้เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครส.ส. และตนยังไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆ

นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างนี้ ตนได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอีกหลายๆ คนในพรรค ก็เห็นว่าจำเป็นที่พรรคต้องเปลี่ยนแปลง และทำให้ประชาชนสัมผัสได้ว่าพรรคพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ตนคิดว่าถ้าตัวเองมีความพร้อมกลับมาทำงานให้กับพรรค ก็ตั้งใจที่จะลงสมัครในครั้งนี้ เมื่อถามต่อว่าได้เชิญให้นายอภิสิทธิ์มาเป็นที่ปรึกษาในทีมด้วยหรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า คงไม่มีเรื่องที่ปรึกษาของทีม แต่ได้หารือกับนายอภิสิทธิ์และอีกหลายคนถึงสถานการณ์ของพรรค

เมื่อถามถึงการวางตัวทีมงาน โดยเฉพาะผู้จะมาเป็นเลขาธิการพรรค นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับหลายๆคนในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ มีทั้งผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. และผู้ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. รวมถึงเรามีเครือข่ายที่เป็นคนภายนอกซึ่งยังศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนคนที่จะเป็นเลขาธิการพรรคนั้น ที่จริงในการตั้งทีม ตนไม่ได้พิจารณาเป็นรายบุคคลว่าใครควรอยู่ตำแหน่งไหน

“ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นการพูดคุยกันว่ามีใครบ้างที่จะกลับมาทำงานให้กับพรรค และไม่ได้กำหนดว่าคนเป็นเลขาธิการพรรคควรเป็นคนในหรือคนนอกพรรค แต่ต้องดูคุณสมบัติเป็นหลักว่าเลขาธิการพรรคคนใหม่จะต้องเปลี่ยนบทบาทหรือไม่ในการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร และการเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป สำหรับการเปิดตัวทีมนั้น ต้องดูเรื่องความพร้อมและช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง คงหลังจากมีการรับรองผล ส.ส.ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ส่วนจะเปิดตัวด้วยวิธีใด ขอพิจารณาก่อนว่ารูปแบบไหนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน” นายอภิรักษ์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน