‘มาร์ค’ ปัดตั้งขั้วที่ 3 ชี้ปิดสวิตช์ ส.ว. ไม่ได้ หากร่วม พปชร. เสียงปริ่มน้ำ อาจเกิดงูเห่า

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กของ นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ตอนหนึ่งว่า ข่าวการจัดตั้งขั้วการเมืองที่ 3 เป็นข่าวลือ ซึ่งตนไม่ขอลงรายละเอียด เพราะเป็นกระบวนการภายในของพรรคที่จะตัดสินใจทางการเมือง แต่ตอนนี้เหมือนพรรคถูกบังคับให้เลือกข้างอยู่ แต่ทั้ง 2 ข้าง เดินไปแล้วคงจะราบรื่นยาก ความหมายคือ อยู่ดีๆ มีข่าวว่า ประชาธิปัตย์จะไปจับมือกับเพื่อไทย ซึ่งตนก็แปลกใจเพราะได้ประกาศจุดยืนไปตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว ในขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์มีเกิน 125 จากหลายปัจจัย ดังนั้นการเมืองขั้วที่ 3 จึงไม่สามารถปิดสวิตช์ ส.ว.ได้จริง

ในทางกลับกัน สมมติพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมกับพลังประชารัฐจะมีเสียงเกินครึ่งประมาณ 3-5 เสียง เท่านั้นอาจจะพอ สำหรับการบอกว่าได้เสียงเกินครึ่ง แต่ยากต่อการบริหารประเทศ ทำให้เกิดความคิดเรื่องงูเห่า จึงมีคำถามว่าหากทำแบบนี้ สังคมจะยอมรับหรือไม่ และจะผลักดันเรื่องนี้อย่างไร รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์จะต้องคุยกันเพื่อค้นหาวิธีไม่ให้อยู่ในสภาวะแบบนี้หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่า ต้องให้โอกาสนายจุรินทร์ในการดำเนินการตามแนวคิดที่จะทำให้อุดมการณ์ทันสมัย รวมถึงการตัดสินใจทางการเมืองในอนาคต ซึ่งส.ส.และกรรมการบริหารพรรคจะประชุมกัน ทั้งนี้ นายจุรินทร์ เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าที่จะต้องมาช่วยพรรค ส่วนตนได้บอกนายจุรินทร์แล้วว่า จะทำหน้าที่เป็น ส.ส.และสมาชิกพรรค พร้อมช่วยนายจุรินทร์ในทุกเรื่อง

ถ้าถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าพรรคจะสามารถทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในเรื่องอุดมการณ์และจุดยืนได้หรือไม่ จะทำให้คนเห็นความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่วางใจได้ พึ่งได้ ตอบโจทย์ปัญหาประเทศได้หรือไม่ ถ้าทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลับมาไม่ได้ แต่ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ก็คงยาก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนบทบาทของตน งานการเมืองเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไร ก็ต้องใส่ใจปัญหาของบ้านเมืองศึกษานโยบายศึกษาแนวความคิดต่างๆ อยู่ตลอดเวลา หลังลาออกจากหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่แบกไว้กว่า 14 ปี จึงเหมือนกับยกอะไรออกไป หน้าตาผ่องใสมากขึ้น เมื่อเช้าตนได้พบกับหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตนยังแซวอยู่ว่าจะเริ่มต้นคุยกับเขาว่าแสดงความยินดี แต่นึกถึง 14 ปีที่ผ่านมาไม่แน่ใจว่า ควรจะพูดคำนี้หรือไม่ เขาก็หัวเราะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน