ประชาธิปัตย์ ปัดข่าวลือเคาะจับมือ พปชร. จี้พรรคแกนหลักต้องให้เกียรติ เหน็บคนเจรจาต้องดูหมากทั้งกระดานว่า เกมจบอย่างไร ใช้วิธีคิดแบบทหารอาจพาการเมืองสู่ทางตัน

วันที่ 31 พ.ค. นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ตกลงจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แล้วว่า ไม่เป็นความจริง พรรคประชาธิปัตย์ยังรอรับแจ้งผลสรุปจากพรรคพลังประชารัฐอยู่ หลังจากที่เขามาเชิญเมื่อวันที่ 28 พ.ค. จนถึงขณะนี้เขายังไม่ติดต่อแจ้งผลมาให้เราทราบ เราจึงยังไม่ได้ประชุมใดๆ เพราะเขายังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน

เมื่อถามว่า คิดว่าพรรคพลังประชารัฐอาจรอให้มีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จไปก่อนหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า เขาคงรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน หรืออาจรอให้เลือกนายกฯ เสร็จไปก่อนจึงจะให้คำตอบเรา

เพราะตอนนี้เขาถือว่าเป็นผู้กำหนดเกม เป็นแกนหลัก แต่การจะให้เลือกนายกฯ เสร็จก่อนแล้วจึงจะจบข้อตกลงตั้งรัฐบาลนั้น ในอดีตเขาไม่ทำกัน แต่ถ้าเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ ต้องบอกกันอย่างเป็นทางการว่ามีเหตุผลความจำเป็นอะไร ตนคิดว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ต้องเคารพและให้เกียรติกัน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่

บางครั้งท่าทีหรือการให้เหตุผลเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกมาพูดกันเรื่องบ้านเมือง ผู้ทำหน้าที่เจรจาต้องมีศาสตร์และศิลป์ ต้องมีวุฒิภาวะมากพอในการทำเรื่องอย่างนี้ ไม่ใช่ใครก็มาทำได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐต้องเป็นผู้ให้ความชัดเจนทั้งเรื่องตัวคนที่มีอำนาจเจรจาอย่างแท้จริง และคำตอบในการประสานงานกับเรา จึงขอย้ำว่าให้เขาแก้ปัญหาของเขาให้จบก่อน

เมื่อถามว่าถ้าคนที่มาเจรจาใช้วิธีคิดแบบทหาร จะทำให้การตกลงร่วมจัดตั้งรัฐบาลทำได้ยากใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า มันมีความเสี่ยงที่ปลายทาง ถ้าเขาทำอย่างนั้นแสดงว่าเขากำลังจะพาการเมืองเข้าสู่ทางตันใช่หรือไม่ มีทางเลือกว่าถ้าเราไม่ร่วมด้วย เขาจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้วจะเดินไปอย่างไร เขาจะเสนอกฎหมายอย่างไร เอาองค์ประชุมมาจากที่ไหน จะทำให้การเมืองไปสู่การยุบสภาใช่หรือไม่

เวลาสภาจะพิจารณาออกกฎหมาย ส.ว.ไม่ได้มาประชุมด้วย ถ้าฝ่ายรัฐบาลมีส.ส.ร้อยกว่าคน ทั้งที่ส.ส.ทั้งหมดมี 500 คน แล้วองค์ประชุมจะเดินหน้าอย่างไร เรื่องอย่างนี้ต้องดูให้ตลอดทั้งหมด แต่ถ้าจะคิดเพียงแค่ให้ได้เสียงลงมติเลือกนายกฯ แต่ต่อไปฝ่ายรัฐบาลไม่มีเสียงข้างมาก จะเกิดทางตันขึ้นทันที

“ดังนั้นผู้ที่จะเป็นผู้บริหารต้องดูหมากทั้งกระดาน ไม่ควรดูทีละตา การจะเดินหมากในกระดานไม่ควรคิดเพียงว่าเดินตรงนี้เท่านั้น แต่ต้องดูว่าหมากเกมนี้จะจบลงอย่างไร ประเทศไม่ใช่อยู่ที่อารมณ์ของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนจึงต้องมีสติในการแก้ปัญหา ผมไม่เชื่อว่าการตัดสินใจอย่างนั้นจะเป็นทางออกที่ดีต่อประเทศ ยังมีทางออกอีกเยอะ”นายนิพนธ์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน