พปชร. ยังไม่สรุปขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ชี้ทำได้บางนโยบาย
เร่งเดินหน้าบัตรคนจน-มารดาประชารัฐ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการร่างนโยบายรัฐบาลว่า เรื่องนี้เป็นภาระหลักที่ พปชร.กำลังเร่งรัด ขณะนี้เรานำเนื้อหาหลักของนโยบายพรรคร่วมทั้งหมดที่เสนอเข้ามารวบรวม ซึ่งร่างแรกดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนขณะนี้คือดูในเรื่องของงบประมาณที่ต้องให้สมดุลกัน ส่วนขั้นต่อไปภายใน 1-2 วันนี้ จะหารือกับพรรคร่วม เพื่อให้นโยบายนั้นนำไปปฏิบัติได้ เป็นนโยบายที่มีงบประมาณในการทำงาน โดยจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามกรอบเวลา ที่ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ภายหลังถวายสัตย์ ขณะนี้คืบหน้าไปพอสมควร

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคร่วมทุกพรรค อะไรที่ต้องพูดคุยกัน ก็ต้องพูดคุย เนื่องจากเราเป็นรัฐบาลผสม จึงไม่สามารถทำนโยบายใดๆ เพียงลำพังได้ คงต้องปรับตัวกัน หารือกัน ซึ่งแต่ละพรรคมีนโยบายหลากหลายที่ใช้ในตอนหาเสียง และครอบคลุมเกือบทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สวัสดิการ เช่นเดียวกับนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่ต้องมีการหารือกัน ทั้งในพรรคเราเอง และพรรคร่วม เพื่อให้ได้บทสรุป

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ตามเนื้อหาที่เราใช้หาเสียงคือต้องการยกระดับฝีมือแรงงาน และปรับทั้งระบบแรงงาน ซึ่งเรามีเป้าหมายแล้วว่าถ้ายกระดับแล้ว ผลตอบแทนของค่าแรงก็จะสูงขึ้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ที่ต้องใช้เทคโนโลยี ใช้ความชำนาญพิเศษในการควบคุม ดังนั้นทิศทางของเรื่องแรงงาน เราเห็นตรงกัน คือต้องยกระดับฝีมือแรงงาน เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายให้มีค่าแรงที่สูงขึ้น เมื่อเราหารือกับพรรคร่วมเสร็จ ได้นโยบายร่วมกันแล้ว ได้งบประมาณที่จะนำไปใช้แล้ว ก็จะนำไปสู่แผนปฏิบัติการเรียงลำดับว่าอะไรจะเป็นเรื่องเร่งด่วนของพรรค ของรัฐบาลที่จะทำ เร็วๆ นี้ น่าจะได้กรอบทั้งหมด

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ พปชร. เสนอไว้เป็นหลักในการหาเสียง และจะดำเนินการต่อ เป็นนโยบายเร่งด่วนของพรรครวมถึงนโยบายสินค้าเกษตร และมารดาประชารัฐ ที่พรรคใช้หาเสียงไว้อันนี้เป็นเรื่องหลักที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน ทั้งนี้ ทุกพรรคหาเสียงด้วยนโยบายที่ค่อนข้างมาก คงไม่สามารถครอบคลุมได้ทุกนโยบาย คงต้องเรียงลำดับความสำคัญ อะไรที่สอดรับกันได้ ก็เป็นนโยบายที่ไปด้วยกันได้ เมื่อร่างนโยบายเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เราต้องเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ น่าจะเห็นความคืบหน้าที่มากพอสมควร ที่จะสามารถเสนอร่างให้นายกฯ ได้ในสัปดาห์หน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน