‘ทวี’ ผนึกฝ่ายค้าน-รัฐบาล ฟังปัญหา ‘โคกอีโด่ย’ รัฐให้นายทุนเช่าที่ แต่คนจนไร้สิทธิ์

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อประชาชน และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยนายมนตรี บุญจรัส รองโฆษกพรรคประชาชาติ และตัวแทนพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ลงพื้นที่เวทีสัญจร “พรรคการเมืองฟังเสียงคนจน” ครั้งที่ 2 ณ ชุมชนโคกอีโด่ย ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อร่วมสำรวจป่าชุมชนและแหล่งน้ำรวม 1,600 ไร่ ที่กำลังจะถูกอำนาจรัฐลิดรอนจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นธรรม โดยมีนายอุทัย สอาดชอบ และนายสกุล ฤทธิ์เดชรัมย์ กรรมการและชาวบ้านชุมชนโคกอี่โด่ย ให้การต้อนรับ​พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องการใช้อำนาจของภาครัฐในการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยการปล่อยปละละเลยให้เอกชนหรือนายทุนเข้ามาใช้พื้นที่และเอาเปรียบประชาชนคนยากคนจน เช่น พื้นที่ทางภาคใต้ที่มีการให้เช่าสัมปทานที่ดินปลูกปาล์มไร่ละ 50 สตางค์ เป็นจำนวนหลายหมื่นไร่ เมื่อหมดสัมปทาน 30 ปีแล้ว ก็มีทีท่าว่าจะให้นายทุนเหล่านั้นต่อสัญญาออกไปอีก​

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า นายทุนเองก็พยายามใช้เส้นสายในการต่อสัมปทาน​ อันเป็นเหตุให้ประชาชนคนยากจนเสียสิทธิ์ เสียพื้นที่ในการทำมาหากิน หรืออีกนัยยะหนึ่ง ประชาชนที่ยากจนหรือมีรายได้น้อยกลับต้องเช่าพื้นที่ในการเกษตร เพื่อปากท้องและดูแลครอบครัวในราคาไร่ละเป็นพันหรือมากกว่า​ ซึ่งไม่เป็นธรรมและทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำพ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตนมองว่าประชาชนมีโอกาสน้อยในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน​ เนื่องด้วยคุณสมบัติที่ยากจนสุดๆ​ ไม่มีหลักประกัน รวมถึงยังห่วงใยในเรื่องของแนวคิดที่ราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐมีความคิดว่าที่ดิน​หรือสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินเป็นของรัฐ ซึ่งควรต้องมีการเปลี่ยนความคิดเสียใหม่คือที่ดินหรือสาธารณประโยชน์นั้นต้องเป็นของประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน​

ประชาชนชุมชนโคกอีโด่ย มีประชากรทั้งหมด 53 ครัวเรือน จำนวน 360 คน แบ่งเป็น 5 หมู่บ้าน กรรมการชุมชนได้เล่าประวัติการต่อสู้ที่ยาวนานกับภาครัฐและนายทุน (ปลูกป่ายูคาถึง​ 400​ไร่) บนเนื้อที่ประมาณ 1,600​ ไร่ ซึ่งรัฐบาลในอดีตได้ใช้ฝึกกองกำลังรัฐกันชนเขมรแดงในยุคคอมมิวนิสต์เฟื่องฟูปัจจุบันชาวบ้านโคกอีโด่ยขอผ่อนผันกับภาครัฐอยู่ในรูปแบบป่าชุมชน อยู่ในกรอบพื้นที่ประมาณ​ 900​ ไร่​ โดยเป็นของ​ ตชด.​ 500 ไร่ และเป็นของกรมป่าไม้​ 400​ ไร่​ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ เคยมีนโยบายที่จะจัดสรรให้ชาวบ้านในชุมชนโคกอีโด่ย โดยแบ่งเป็นแหล่งน้ำ 40 ไร่, พื้นที่ป่าอาหารรวม 17 ไร่, พื้นที่ตลาด 4 ไร่ และเป็นโรงเรียน 12 ไร่ และให้เป็นพื้นที่ทำกิน​1 ไร่

ชาวบ้านโคกอีโด่ย เล่าเหตุการณ์ เมื่อปี 2540 ภาครัฐได้มีการเจรจาพูดคุยและมีการลงมติว่า ชาวบ้านเดือนร้อนจริง​ และมอบให้กรมตำรวจในสมัยนั้นส่งมอบพื้นที่ให้กรมป่าไม้ เพื่อให้กรมป่าไม้มาจัดสรรให้ชาวบ้าน​ ซึ่งติดตามเรื่อยมาหลายปีก็ไม่คืบหน้า โดยรวมชาวบ้านเรียกร้องมา​ 21​ ปี​ ล่าสุดได้รับข้อมูลว่าเอกสารหาย

ประมาณเดือนพฤษภาคม​ปี​ 2550 ชาวบ้านรวมตัวจะเดินทางเข้า กทม. แต่ทหารเข้ามายึดรถไว้ จึงตัดสินใจเดินเท้า โดยให้คนแก่กับสัมภาระขึ้นรถอีแต๊ก ทหารก็เข้ามาขวางอีก และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาไกล่เกลี่ยโดยแจ้งว่าสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯ แต่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยเนื่องจากไม่มั่นใจ​ในข้อเสนอเกี่ยวกับ​ สทก.​ (หนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้โดยมีค่าตอบแทน)​ ซึ่งไม่ยั่งยืน และมีหมดอายุ ​30​ ปี ​โดยหลังจากนี้ก็ไม่มีหลักประกันอะไร​

ข้อสรุปของพรรคพลังประชารัฐ​ อนาคตใหม่​ ประชาชาติ​ ประชาธิปัตย์ ​และรวมพลังประชาชาติไทย ในเบื้องต้นจะรับเรื่องและติดตามข้อเสนอแนะ และกระบวนการต่างๆ ตามที่ชาวบ้านได้เรียกร้องมา​โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็น​คือ​ เรื่องแรกจะไปติดตามขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่ชาวบ้านเคยยื่นไปแล้ว และไม่เกิดการตอบสนองใดๆ​ ในนามพรรคการเมืองและคนของประชาชนจะติดตามและแก้ไขให้ดำเนินการต่อไปได้​

เรื่องที่ 2 คือในเรื่องของตัวบทกฎหมายจะต้องเข้าไปดูว่ามีกระบวนการหรือขั้นตอนใดที่พอจะทำให้ กระบวนการดังกล่าวนี้ เป็นไปตามกฎหมายหรืออาจจะต้องมีการเสนอร่าง แล้วยื่นเข้าไปในสภาด้วยกระบวนการทางกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน