จังหวะ การเมือง
ญัตติ ต้าน “รัฐประหาร”
กับ สังคมไทย
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ญัตติ ต้าน “รัฐประหาร” – ไม่ว่าในที่สุดญัตติจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางมิให้เกิดการรัฐประหารอันเสนอ โดย ส.ส.พรรคอนาคตใหม่จะลงเอยอย่างไร
ผ่านความเห็นชอบ หรือไม่ผ่าน
แต่บทบาทและความหมายของญัตตินี้ในทางการเมืองก็จะยังดำรงอยู่และเสมอเป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งต่อการเมืองในอนาคต
เหมือนกับจะเป็นไปได้ เหมือนกับจะเป็นความ เพ้อฝัน
เพราะในความเป็นจริง แม้ว่าสังคมเริ่มเห็นพิษภัยของรัฐประหาร แต่ก็ยังมีความเชื่อว่าทหารก็จะยังมีบทบาทในทางการเมืองไปอีกนาน
ความเชื่อต่อบทบาทของทหารเป็นความเชื่อจาก พื้นฐานในอดีตที่ทหารมีบทบาทและความสำคัญในลักษณะชี้ขาดต่อสังคมไทยในระดับที่แน่นอนหนึ่ง
และเชื่อว่าทหารจะไม่ยอมปล่อยมืออย่างง่ายดาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมองสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลปัจจุบันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับกองทัพในปัจจุบันที่วางเครือข่ายเอาไว้อย่างแนบแน่น
เพราะรัฐบาลปัจจุบันมีรากฐานมาจาก “รัฐประหาร”
กระนั้น ความพยายามของพรรคอนาคตใหม่ การยอมรับและเปิดให้มีการประชุมพิจารณา เรื่องนี้ในเวทีรัฐสภาก็ถือได้ว่าเป็นการเปิดหนทางสายใหม่ขึ้น
เมื่อมีพื้นที่ขึ้นในเวทีรัฐสภานั่นหมายถึงว่าประเด็นอันเกี่ยวกับกองทัพ ประเด็นอันเกี่ยวกับรัฐประหารก็จะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
เมื่อจะอภิปรายก็จำเป็นต้องมีการศึกษา
เมื่อมีการศึกษานั่นหมายถึงจะต้องมีการพลิกฟื้นแต่ละเปลาะแต่ละปล้องของกระบวนการรัฐประหารว่ามีความเป็นมาอย่างไร
บทเรียนจากรัฐประหาร 2 ครั้งภายใน 1 ทศวรรษสำคัญ
เพราะว่าสภาพการณ์ที่สังคมไทยกำลังประสบอยู่ในขณะนี้คือผลพวงอันเนื่องแต่การรัฐประหารโดยตรงเลยว่าเป็นผลดีหรือว่าเป็นผลเสีย
การเกิดขึ้นของญัตติจึงเป็นเงาสะท้อนของปัญหาอย่างแท้จริงซึ่งเกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในสังคมไทยกลายเป็นคำถามว่าจะสามารถตีฝ่าไปได้อย่างไร
เป็นเสียงก้องจาก “นักการเมือง” กลุ่มหนึ่ง
ประสานกับสภาพความเป็นจริงของโลกที่กำลังแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไปตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปตามแต่ละสภาพการณ์และผลกระทบ
เท่ากับเป็นสัญญาณ “เตือน” อันทรงความหมาย