‘โรม’ ลงพื้นที่ส่งผู้ชุมนุม ห่วงความปลอดภัย ย้อนถามมี พรก.ฉุกเฉิน ไว้ทำไม? บอกคุมโควิด แต่ห้ามคนชุมนุม วอนเคารพ รธน.

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศยุติการชุมนุม นายอานนท์ นำภา แกนนำแจ้งว่า คืนนี้ทางตำรวจรับปากว่า วันนี้จะไม่มีการจับกุมใครทั้งสิ้น และจะดูแลผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ทุกคน โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล มาลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยหลังยุติการชุมนุม พร้อมส่งผู้ชุมนุมกลับบ้านอย่างปลอดภัย หลังจากก่อนหน้านี้มีผู้ชุมนุมแจ้งว่าออกจากที่ชุมนุมแล้วมุ่งหน้าไปตรงโรงเรียนสตรีวิทย์ แล้วมีชายต้องสงสัยจะมาจับกุมตัวทำให้ต้องหนีมาที่ร้านแมคโดนัลด์ ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้ชุมนุม

หลังเกิดเรื่องทางแกนนำได้พูดคุยกับตำรวจพื้นที่ ซึ่งได้ยืนยันว่าไม่มีชุดจับกุมดำเนินคดีกับใครในวันนี้อย่างแน่นอน ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจ และทางแกนนำได้ทยอยให้ผู้ชุมนุมขึ้นรถเพื่อออกไปจากพื้นที่ถนนราชดำเนินจนแล้วเสร็จ จึงแยกย้ายกัน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีหลายคนเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่ จึงมาดูว่าจะมีเรื่องไหนที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน จะเข้ามารับทราบและนำเรื่องเข้าสู่ กมธ.ได้ ตนพยายามถามหลายๆ คนว่าเกิดอะไรขึ้น ถามทั้งตำรวจและผู้ชุมนุม หลักๆ คือเรื่องการสื่อสารของแกนนำที่ต้องการให้กลับ เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะการชุมนุมรอบนี้ เราเห็นการปล่อยข่าวที่ไม่รู้จริงหรือปลอมก็น่าเป็นห่วง

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีหากมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการชุมนุม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราต้องกลับไปหาจุดเริ่มต้นว่า ตกลงเราใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่ออะไร ถ้าบอกว่าเพื่อต้องการป้องกันโควิด ก็สามารถใช้เพื่อทำยังไงให้การชุมนุมปลอดโควิดได้ อันนี้คือหลักการ เหมือนเราไปร้านอาหาร เราไปคอนเสิร์ต เราไม่ได้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อยุติไม่ให้มีคอนเสิร์ต

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า เสรีภาพของประชาชนที่รับรองไว้ในกฎหมายตามรัฐธรรมนูญก็ยังมีอยู่ การที่จู่ๆ มาบอกว่า จะเอา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ เพื่อไม่ให้คนชุมนุม ตกลงเรามี พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปทำไม อันนี้คือสิ่งที่ต้องถามกลับว่า ความมุ่งหมายของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคืออะไรกันแน่ เราไม่อยากให้คนตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่า เอามาใช้เพื่อปกป้องรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นผลเสียต่อรัฐบาล

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ในวันพุธที่ 22 ก.ค. กมธ. จะเอาเรื่องที่ จ.ระยอง มาคุยใน กมธ. ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นการรวมตัวของคนแค่ 2 คน และชู 2 ป้าย แล้วจับเขาขึ้นรถ ตนคิดว่าไม่น่าเป็นการใช้กฎหมายที่ถูกต้อง ในบทบาทของ กมธ. ต้องคุยกัน เพื่อป้องกันไม่ให้การใช้เสรีภาพของประชาชนมันทำไม่ได้ ถ้าสุดท้ายเสรีภาพของประชาชนทำไม่ได้ แล้วเราจะมีรัฐธรรมนูญไปทำไม จะมีหลักการคุ้มครองประชาชนไปทำไม

“ถ้าในที่สุด เราใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างเรื่องสุขภาพ แล้วทำให้ประชาชนไม่สามารถขยับได้ แม้ว่าเขาจะไม่พอใจรัฐบาล เราต้องเข้าใจว่า ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในช่วงของการรัฐประหารเหมือนในอดีต คือการที่รัฐบาลหรือนายกฯ มีมาตรา 44 ที่จะใช้อำนาจตามอำเภอใจ แต่วันนี้เรามีการเลือกตั้ง มีสภาผู้แทนราษฏร มี กมธ.ในการตรวจสอบ ดังนั้น อยากให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่เคารพกติกา เคารพรัฐธรรมนูญด้วย ถ้าเราบอกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีไว้ป้องกันโควิด ก็เอาแค่โควิด อย่าถึงขนาดให้ประชาชนไม่สามารรถใช้เสรีภาพของตัวเองในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้” นายรังสิมันต์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน