วันที่ 17 ส.ค. ที่สำนักงานป.ป.ช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวกรณีประชาชนจะมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 ส.ค. ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินคดีรับจำนำข้าว ว่า ได้รับข้อมูลมาจากหลายช่องทางว่าประชาชนที่เคยแสดงออกทางการเมืองที่จะมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือแม้แต่กลุ่มที่ไม่ได้แสดงออกทางการเมือง แต่เห็นวิบากกรรมที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ พบเจอก็ต้องการจะมาให้กำลังใจ
แต่ก็มีเจ้าที่ใช้กำลังทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง เข้าไปพบเข้าไปพูดคุยสอบถาม ไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้งแล้ว เพื่อถามว่าจะไปให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ ซึ่งสื่อความหมายว่าไม่อยากให้ไป เมื่อใกล้วันที่ศาลจะพิพากษาเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้เข้มงวดขึ้น สร้างความรู้สึกกดดัน หวาดกลัว และไม่เข้าใจต่อการปฏิบัติหน้าที่
ได้รับทราบข้อมูลเป็นภาพถ่ายจากประชาชนในเขต อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าที่ทหารเข้าไปในเขตชุมชนพร้อมอาวุธครบมือ แล้วกระจายกำลัง เหมือนพื้นที่ดังกล่าวมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น มีทั้งเดิน นั่งเล็งปืนและเข้าไปสอดส่องบ้านเรือน ไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ถ้าหากเป็นการดำเนินการเพื่อเป็นแรงเสียดทานให้กับประชาชน เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุไปหรือไม่ อยากได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ในเรื่องนี้ด้วย ตนไม่ได้กล่าวหาว่าไปกดดันประชาชนแต่ในพื้นที่ จ.ลำพูน ไม่ได้มีสถานการณ์ที่ร้ายแรงแต่อย่างใด
เห็นการทำงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อกรณีดังกล่าวพบว่าตื่นตัวสุดขีดในการตรวจสอบงบประมาณของรัฐที่จะเชิญชวนประชาชนมากรุงเทพฯ วันที่ 25 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไหนจะดำเนินการเช่นนั้นได้เพราะมีกฎหมายมีระเบียบการใช้งบประมาณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ยืนยันเช่นกันว่าไม่มี
เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้ใช้งบประมาณเพื่อนำประชาชนมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว ก็อยากให้สตง.ที่กำลังตื่นตัวสุดขีด ได้ตรวจสอบและแถลงต่อประชาชนว่าหน่วยงานรัฐทั้งหลายได้ใช้งบประมาณเคลื่อนไหวไม่ให้ประชาชนมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปแล้วทั้งหมดเท่าใด เป็นการใช้งบประมาณที่ชอบด้วยกรอบของกฎหมายหรือไม่ สตง.จำเป็นต้องแสดงให้เห็นเพื่อที่จะได้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับเรื่องนี้
ส่วนที่หน่วยงานภาครัฐสลับกันออกมาให้ข่าวเรื่องการประมาณการณ์ยอดของประชาชนที่จะมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า หลักร้อย หรือหลักพันบ้าง ก็อยากจะให้แถลงให้ประชาชนทราบด้วยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่พูดคุย สื่อสาร หรือเป็นการกดดันประชาชนเท่าใด ควรให้เห็นข้อเท็จจริงจากทุกด้าน ทุกฝ่าย เพื่อความชัดเจนโปร่งใส
“ส่วนตัวผม ถ้าบอกว่าวันที่ 25 ส.ค.นี้ ผมไม่ไปก็คงไม่เชื่อ เพราะว่าผมเป็นรัฐมนตรีร่วมครม.ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผมเลยต้องไปให้กำลังใจส่วนบุคคล ยืนยันว่าไม่มีทั้งบนดินและใต้ดินที่จะไปเชิญชวน หรือปลุกระดมใครเข้ามา มันเป็นเรื่องที่เปิดเผยตรงไปตรงมาและเป็นเรื่องของสุภาพบุรุษระหว่างกันได้ แต่สิ่งที่ผมเห็นเมื่อใกล้วันพิพากษาน.ส.ยิ่งลักษณ์มาตลอด ซึ่งยังคงเยือกเย็น หนักแน่น และสง่างาม จึงอยากเห็นทุกคนทุกฝ่ายได้แสดงความเป็นสุภาพบุรุษในการปฏิบัติต่อตัวจำเลย หรือพี่น้องประชาชนทุกข้างทุกฝ่าย
หากใครที่จะมาให้กำลังใจคงไม่คิดที่จะสร้างความรุนแรง ซึ่งขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับความจริงว่าน่าจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ให้กำลังใจมาร่วมแสดงพลังในพื้นที่ของศาลด้วย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยมาดูแลด้วย” นายณัฐวุฒิ กล่าว
