เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) เตรียมยื่นถอดถอนคณะกรรมการป.ป.ช. ต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่า มีสิทธิ์ยื่นได้ แต่ต้องดูด้วยว่าจะยกเหตุพฤติการณ์ใด ยืนยันว่าป.ป.ช.พิจารณาก่อนมีมติโดยยึดคำพิพากษากลางที่ยุติแล้ว รวมทั้งคำพิพากษาของผู้พิพากษาแต่ละคน ที่ฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 3 คนคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.นั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมในขณะนั้น ด้วยเสียง 8 ต่อ 1 ขององค์คณะผู้พิพากษาศาล

นายปรีชา กล่าวว่า ส่วนจำเลยที่ 4 คือพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น.นั้น คำพิพากษาระบุว่าเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ อยู่ตลอดโดยเสียง 6 ต่อ 3 ขององค์คณะผู้พิพากษาศาล และพบว่าในการบัญชาการสถานการณ์นั้น ไม่มีการปรับเปลี่ยนมาตรการปราบปรามให้สอดคล้องกับเหตุการณ์

นายปรีชา กล่าวว่า ยืนยันว่าในการออกเสียงลงมติของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช. ไม่สามารถโน้มน้าวกรรมการคนอื่นๆ ได้เพราะเราเป็นอิสระ และในการขอมติที่ประชุมต่อการพิจารณาอุทธรณ์คดีนี้ ประธานก็งดออกเสียง

ส่วนมีอดีตผอ.สำนักงานป.ป.ช.จว.มหาสารคาม ร่วมแถลงข่าวกับกลุ่มพธม.แล้วระบุว่ากรรมการป.ป.ช. ชุดเดิม 4 คนที่อยู่ในยุคเดียวกับนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป.ป.ช. และได้ร่วมลงมติชี้มูลความผิดในปี 2552 แต่กรรมการทั้ง 4 คนในชุดเดิมกลับไม่อุทธรณ์จำเลยทั้ง 3 คนในครั้งนี้นั้น นายปรีชา กล่าวว่า วันที่ 7 ก.ย. 2552 เป็นวันพิจารณาชี้มูลในคดีดังกล่าว ซึ่งกรรมการทั้ง 4 คนที่ถูกอ้างถึงนั้น ยังไม่ได้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่กรรมการป.ป.ช.

นายปรีชา กล่าวว่า ดังนั้น จะนำไปกล่าวอ้างว่ารู้เรื่องด้วยคงไม่ถูกต้อง เพราะตนเป็นคนแรกของกรรมการทั้ง 4 คนที่เข้ามา รับหน้าที่เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2553 ก่อนที่อีก 3 คน คือนายณรงค์ รัฐอมฤต พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง และน.ส.สุภา ปิยะจิตติ จะตามเข้ามา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน