เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ว่า อยู่เหนือความคาดหมาย เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศตลอดว่าพร้อมสู้คดี อีกทั้งรัฐธรรมนูญปี 2560 สามารถอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาฯได้ เหมือนยังมีก๊อกสองให้ยังต่อสู้ได้ ตนไม่คาดคิดเนื่องจากมองว่าการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมคือความชอบธรรม ส่วนจะแพ้หรือชนะเป็นอีกประเด็นหนึ่ง

“เมื่อเราเป็นนักการเมืองเราต้องเข้าสู่กระบวนการ ยอมรับกติกา แล้วประชาชนจะตัดสินใจเองได้ การต่อสู้ในกระบวนการมันเป็นความสง่างาม วัฒนธรรมของคนไทยชอบคนที่เผชิญกับความจริง มีความเห็นอกเห็นใจคนที่อ่อนแอ คนที่ประสบชะตากรรม ที่สำคัญ นักการเมืองต้ององอาจและกล้าหาญในการต่อสู้ทุกเหตุการณ์” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการและการจัดตั้งขึ้นมาใหม่ เรื่องตัวบุคคลน่าจะเป็นประเด็นรองลงมาแล้ว วันนี้หากองค์กรกับการบริหารจัดการดี ภายในพรรคเคารพกติกา ไม่ว่าพรรคไหนใครเป็นผู้นำก็ไม่สำคัญ วันนี้ทุกพรรคเหมือนกันหมด เหมือนพรรคเพื่อไทยไม่มีคนในตระกูลชินวัตร พรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่มีนายบรรหาร ศิลปอาชาแล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกพรรคต้องเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ รองรับกับความรู้สึกของประชาชนได้ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาจะชูใครคงตอบไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค เชื่อว่าหลังเสร็จงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพและพระราชพิธีราชาภิเษก รัฐบาลและคสช.คงไม่มีภาระที่จะรับผิดชอบมากมายแล้ว คงเข้าสู่โหมดการผ่อนปรนทางการเมือง และคืนอำนาจให้กับประชาชน ประมาณกลางปี 2561 เป็นต้นไป เพราะยืนยันว่าจะดำเนินการตามโรดแม็ป

“วันนี้เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่กระบวนการตามโรดแม็ปแบบเต็มตัวแล้ว ขณะที่ปัจจุบันสถานการณ์การเมืองได้คลี่คลายลงพอสมควร ไม่เขม็งเกลียวเหมือนแต่ก่อน ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาเป็นตัวยืนยันได้อย่างดี ส่วนรัฐบาลจะประกาศวันเลือกตั้งเมื่อใดนั้น นายกฯคงต้องปรึกษากันหลายฝ่าย” นายสมศักดิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน