เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเรือเหาะมีปัญหาเป็นเรือเหี่ยว เหาะไม่ได้นั้น หลายฝ่ายสนใจและติดตามตรวจสอบเพื่อหาคนรับผิดชอบนั้น ตนก็ติดตามแต่ยังไม่เห็นการตรวจสอบสืบสวนแบบเจาะลึกลงไปในบางกรณี โดยเฉพาะต้นเรื่องมูลเหตุตั้งแต่ครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นผู้อนุมัติให้ใช้งบกลาง 350 ล้านบาท อาจขัดต่อมติครม.ของตนเอง เพราะใช้เงินงบกลางเกินกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจาก ครม. โดยอนุมัติเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2552 แต่การอนุมัติดังกล่าวมีประเด็นปัญหาที่ต้องพิจารณาก่อนว่าชอบหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 17 ก.พ. 2552 ครม.นายอภิสิทธิ์ เพิ่งอนุมัติแนวทางการใช้เงินงบกลางขึ้นมาใหม่ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง พร้อมยกเลิกแนวทางเดิมไปแล้ว โดยแนวทางที่ ครม.นายอภิสิทธ์อนุมัติไว้ สรุปได้ว่าการใช้งบกลางจะต้องเป็นกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเท่านั้น และกรณีขอใช้งบกลางมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ครม.จะต้องอนุมัติหลักการก่อน
นายเรืองไกร กล่าวว่า แต่ต่อมาไม่เกิน 1 เดือน ปรากฏว่า ครม.นายอภิสิทธิ์ อนุมัติงบกลางให้ กอ.รมน.ไปซื้อเรือเหาะ โดยอ้างแนวทางการใช้งบกลางของเดิมที่ได้ยกเลิกไปโดยมติ ครม.เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2552 อาจแปลความได้ว่าการอนุมัติงบกลางไม่ได้ทำตามแนวทางใหม่ที่อนุมัติไว้ แต่ไปอนุมัติตามแนวทางเก่าที่เพิ่งยกเลิกไป
นายเรืองไกร กล่าวว่า เหตุที่พบนี้จึงน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐเป็นมูลค่าถึง 350 ล้านบาทที่ป.ป.ช.ควรรีบเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งประเด็นที่พบนั้นน่าจะยังไม่มีฝ่ายใดกล่าวถึง ดังนั้น ตนจะนำประเด็นนี้ไปร้องขอให้ ป.ป.ช.รีบตรวจสอบไต่สวนทันที ว่าการที่ ครม.นายอภิสิทธิ์ ไปอนุมัติเงินงบกลางเพื่อจัดซื้อเรือเหาะ 350 ล้านบาทตามแนวทางที่ยกเลิกไปโดย ครม.นายอภิสิทธิ์นั้นจะชอบหรือไม่ จะไปยื่นหนังสือในวันที่ 22 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ
