เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการติดตามเส้นทางและบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ภายหลังกล้องวงจรปิดจับภาพสุดท้ายได้บริเวณด่านทหาร จ.สระแก้วว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวว่าใครเป็นคนพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่เจ้าหน้าที่พยายามติดตามอยู่ และตอนนี้ยังไม่มีการชี้แจงอะไรเพราะหลักฐานยังไม่ชัดเจน อีกทั้งต่างประเทศก็ไม่ได้ส่งข้อมูลมาใดๆมาให้ จึงยังไม่มีการแถลง ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ส่วนวันที่ 27 ก.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำตัดสินคดีนั้น ตนไม่ห่วงเรื่องสถานการณ์ ศาลตัดสินออกมาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ทั้งนี้ ตนประเมินว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ คงไม่มาฟังคำพิพากษาคดี ประกอบกับมวลชนจะมาให้กำลังใจไม่มาก โดยเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตามกรอบปกติ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความไม่สงบ

“ผมไม่กังวลใจ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของศาลพิจารณาคดีนี้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม” พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามถึงการเดินทางไปราชการที่อังกฤษ ประจวบเหมาะกับช่วงที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่อังกฤษด้วย ได้พบนายทักษิณ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยืนยันว่าช่วงที่ตนเดินทางไปถึงอังกฤษ วันที่ 11-14 ก.ย. นายทักษิณ ไม่ได้อยู่อังกฤษในช่วงนั้น แต่นายทักษิณมาไปอังกฤษวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งคงบินสวนกัน

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความกังวลต่อโรดแม็ปการเลือกตั้งปี 2561 ว่า ตนชี้แจงไปแล้ว ต้องรอให้กระบวนการจัดทำกฎหมายลูกเสร็จสิ้นและนับไปอีก 150 วัน ส่วนจะปลดล็อกให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมได้นั้น เราจะปลดล็อกให้ต่อเมื่อทำกฎหมายลูกเสร็จจึงจะทำได้

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองวิจารณ์ครม.สัญจร เป็นการจัดฉาก สร้างภาพเพื่อเรียกเรตติ้งจากประชาชน รองนายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและไม่ได้เรียกเรตติ้ง ซึ่งการลงพื้นที่ของ ครม.สัญจร เพื่อติดตามงานที่สั่งการไป โดยการเลือกลงพื้นที่จะพิจารณาว่าพื้นที่ใดมีความสำคัญเรื่องน้ำและพืชผลทางการเกษตร ซึ่งตนคิดว่าพวกนักการเมืองชอบหาเรื่องรัฐบาล ขอย้ำว่าเราจะสร้างภาพไปทำไม เพราะเราไม่คิดจะลงเลือกตั้งกับพวกเขา

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการยุติใช้เรือเหาะตรวจการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ให้กองทัพบกเป็นผู้ชี้แจ้ง ซึ่งตนไม่ได้สั่งการอะไรลงไป เพราะทั้งหมดกองทัพบกได้ตรวจสอบอุปกรณ์การใช้งาน

เมื่อถามว่าการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ต่อไปคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์ กองทัพบก (กมย.ทบ.) จะต้องพิจารณาให้รอบคอบยิ่งขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องเรือเหาะตอนแรกก็คิดว่าดี แต่พอกำลังพลนำมาใช้งานจริง เรือเหาะก็ไม่สามารถรับน้ำหนักคนได้มาก

เมื่อถามย้ำว่ากองทัพบกต้องรับผิดชอบกับงบประมาณที่สูญเสียไปหรือไม่ พบ.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะให้รับผิดชอบอย่างไร แต่ยืนยันว่าเราตั้งใจทำงานเพื่อให้ทั้งประชาชนและทหารมีความปลอดภัย จากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม เมื่อเทียบกับการสูญเสียของกำลังพล 1 คน ไม่สามารถประเมินค่าได้ได้ อย่างไรก็ตาม หากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิจ (สตง.) เข้ามาตรวจสอบการใช้งบนั้น ตนคิดว่าตรวจสอบได้เลย เพราะเราไม่ได้นำงบประมาณไปใช้ในทางเสียหาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน