วันนี้ (16 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ผ่าน น.ส.กชนนท์ สุขแก้ว รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ว่ามีการจัดทำพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2560 เห็นว่า พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2561 ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 142 ซึ่งบัญญัติสาระสำคัญไว้ว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีจะต้องจัดทำตามยุทธศาสตร์ชาติและวินัยการเงินการคลังของรัฐ การกระทำนี้จึงอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/1
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบในระหว่างการจัดทำจนถึงพ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ยังไม่มีการจัดทำกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2561 ไม่ชอบด้วยมาตรา142 ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ที่กำหนดให้ การเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2561 จะต้องแสดงที่มาและประมาณการรรายได้ ผลสัมฤทธิ์ หรือประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ จากการจ่ายเงิน โดยให้สอดคล้องกับยุทธศาตร์และแผนพัฒนาต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ แสดงให้เห็นว่า พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2561 ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ได้เกิดความเสียหายแล้วเพราะมีการใช้จ่ายงบประมาณตามกฎหมายฉบับนี้ ส่วนตัวในฐานะเคยเป็นสมาชิกรัฐสภาก็ได้รับเงิน จากกฎหมายดังกล่าว เป็นเงินทุนเลี้ยงชีพจากงบประมาณปี 2561 งวดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงได้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินับฉัยว่า พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2561 ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำกฎหมายดังกล่าวร่วมทั้งผู้ที่ร่วมโหวตให้ความเห็นชอบกฎหมายฉบับนี้ และเร่งให้ตรวจสอบโดยเร็ว เพราะขณะนี้ได้มีการใช้จ่ายเงินไปแล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากศาลวินิจฉัยเรื่องนี้แล้วขัดต่อรัฐธรรมนูญผู้ที่ได้รับเงินดังกล่าวจะมีความผิดไปด้วย
