เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่สภาพัฒนาการการเมือง ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ที่มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธาน ได้เชิญนักการเมือง ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางการเมืองเข้าร่วมประชุม ระหว่างวันที่ 20-30 พ.ย. โดยวันนี้(20 พ.ย.) มีนายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมเป็นคนแรก

นายเอนก กล่าวว่า การเชิญนักการเมืองมา เพราะวันข้างหน้าจะเป็นหลักในการบริหารบ้านเมือง การปฏิรูปการเมืองไม่ได้สิ้นสุดแค่วันเลือกตั้ง โดยการจัดทำแผนไม่ได้เริ่มนับหนึ่งใหม่ เพราะรัฐบาลทำมาแล้วส่วนหนึ่ง สนช.ออกกฎหมายแล้วหลายฉบับ และกรธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกหลายฉบับ ดังนั้น การปฏิรูปในร่างแรกคาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือนธ.ค. จากนั้นจะส่งให้กับคณะกรรมการปฏิรูปทุกชุด พิจารณาว่าเนื้อหาขัดกับแผนปฏิรูปด้านอื่นหรือไม่ แล้วจะนำมาปรับ ก่อนส่งให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครม.และรัฐสภาพิจารณา

นายเอนก กล่าวว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในเดือนเม.ย.2561 ส่วนการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมตามแผนจะเขียนผูกมัดให้หน่วยราชการ โดยรัฐบาลมีหน้าที่ติดตามว่าหน่วยงานรัฐทำตามแผนหรือไม่ หากไม่ทำอาจถูกลงโทษ คณะกรรมการชุดนี้จะใช้งบที่เหมาะสม ติดตามและประเมินผลด้วย เชื่อว่า 5 ปีจะเห็นผลงานเป็นรูปธรรม หลายเรื่องอาจใช้เวลาปฏิรูป แต่บางเรื่องสามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วอย่างไพรมารี่โหวตในการเลือกตั้ง เราอยากทำให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เป็นการเลือกตั้งเพี่อปฏิรูปการเมือง

ด้านนายนิกร กล่าวว่า ก่อนให้ความเห็น คงต้องหารือกับคณะกรรมการฯว่า 5 ปีนี้เป็น 5 ปีของการเปลี่ยนผ่าน แต่การเมืองที่แท้จริงจะเกิดขึ้นหลังจาก 5 ปีนี้ การจะนับความสัมฤทธิ์ตามแผนจะนับอย่างไร รวมทั้ง 5 ประเด็นปฏิรูปของคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง เป็นเป้าหมายที่เพียงพอต่อการปฏิรูปหรือไม่ ซึ่งตนมองว่ายังไม่พอ ควรทำเรื่องใดก่อนหรือทำหลัง เช่น การเลือกตั้งกับการมีส่วนร่วมของประชาชน หรือรัฐกับธรรมาธิปไตย ขณะเดียวกันเรื่องปรองดองควรทำก่อนเลือกตั้ง ถ้าไม่มีการปรองดอง การเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ถ้าเลือกตั้งมีปัญหา การฟอร์มรัฐบาลมีปัญหา ประชาชนจะรู้สึกดีต่อการเมืองได้อย่างไร ทุกอย่างเหมือนโดมิโน ถ้าล้มไปข้างหลังก็ทับกลับหลัง ซึ่งการปรองดองมี 2 ประเด็นคือปรองดองอย่างไร และปรองดองเมื่อไร แต่ไม่เชื่อว่าพรรคจะปะทะกันตอนเลือกตั้ง ความปรองดองจึงต้องทำก่อน

นายนิกร กล่าวถึงการปลดล็อกให้พรรคการเมืองว่า พรรครอหนังสือตอบกลับจากกกต.ในส่วนที่สอบถามไป เบื้องต้นให้รองผอ.พรรคสรุปคำตอบที่กกต.ตอบพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ที่เป็นห่วงขณะนี้คือระยะเวลาที่มาตรา 141 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งกำหนดให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคใน 90 วัน ใกล้จะครบกำหนดวันที่ 5 ม.ค.61 แต่มีการพูดถึงการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งตนไม่อยากให้แก้ เพราะเป็น 1 ใน 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ขณะนี้เหลือ 2 ฉบับอยู่ในชั้นการพิจารณา หากแก้พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง จะหมายความว่ากฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่เสร็จ 1 ฉบับ เป็นไปได้ที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป ดังนั้นปลดล็อกช้าหรือเร็วมีผลต่อพรรค

เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ ที่คสช.อาจให้รีเซ็ตสมาชิกพรรค นายนิกร กล่าวว่า เรื่องรีเซ็ต เคยคุยกันแล้วตอนร่างกฎหมายว่าสมาชิกพรรคไม่ได้มีความผิด จึงไม่จำเป็นต้องรีเซ็ต เพราะถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นตรงกันหมดทุกฝ่าย มาวันนี้จะย้อนไปตรงนั้นทำไม ถ้าทำก็จะผิดรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ที่คณะกรรมการฯ วางกรอบไว้ 5 เรื่อง 1.การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อการปฏิรูปประเทศ 2.การสร้างรัฐธรรมาธิปไตย 3.การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 4.กลไกการแก้ปัญหาขัดแย้งโดยสันติวิธีและการรู้รักสามัคคีของสังคมไทย และ 5.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน