เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ถนนแจ้งวัฒนะ นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เรียกประชุมใหญ่ศาลฎีกา ผู้พิพากษา 176 คน เพื่อประชุมลงมติเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นกกต.ที่เหลืออีก 1 คน จากที่กฎหมายกำหนด 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีมติคัดเลือกได้แล้ว 1 คน คือนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ส่วนอีก 4 คน ปรากฏว่าไม่มีผู้สมัครรายใดได้คะแนนจากเสียงโหวตของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเกินกึ่งหนึ่ง หลังโหวตไปถึง 3 รอบ จึงต้องมีการรับสมัครและเลือกว่าที่ กกต.จากศาลฎีกาอีกครั้ง

ในการลงมติวันนี้ มีผู้พิพากษาที่มีคุณสมบัติครบลงสมัครเป็น กกต. 2 คน คือ นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา และนายประพาฬ อนมาน ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ซึ่งทั้งสองคนเคยลงสมัครในรอบที่แล้วแต่เสียงโหวตไม่ถึง

ต่อมาเวลา 17.00 น. ผลการลงมติเลือก ปรากฏว่า นายปกรณ์ มหรรณพ ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ให้เป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. คนที่ 2 ครบตามจำนวน

สำหรับนายปกรณ์ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้พิพากษานั้น เคยดำรงตำแหน่งต่างๆ เช่น อดีตรองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4, อดีตอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 (ภาคอีสานตอนบน)

ปัจจุบันยังได้รับเลือกเป็นหนึ่งในอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.) ในศาลฎีกา (วาระ 2559-2561) ซึ่งตำแหน่งดังกล่าว มีหน้าที่พิจารณาบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาเบื้องต้น รวมทั้งประเด็นการรับเรื่องราวร้องเรียนต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา คัดเลือกครบ 2 คนแล้ว เมื่อรวมกับ 5 คนที่ผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหากกต. ถือว่าได้ครบ 7 คนแล้ว จากนั้นส่งชื่อให้ สนช. ไม่เกินวันที่ 12 ธ.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน