‘อนุทิน’ ลุย 3 จว.ใต้ ยันจะส่งวัคซีนให้ได้ 70% ภายในเดือน ต.ค. สร้างภูมิคุ้มกัน ก่อนเปิดรับต่างชาติ 1 พ.ย. หลังโควิดระบาดในจังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ต.ค. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และคณะฯ ได้เดินทางไปยัง รพ.ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่บุคลการทางการแพทย์ในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานแก่บุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ
โดยมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา นายแพทย์ สสจ.ทั้ง 3 จังหวัด และบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่เข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวว่า การประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความมั่นใจในการจัดการกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ เนื่องจากพื้นที่การระบาดเป็นวงจำกัดเฉพาะแค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น ยังไม่มีการกระจายไปที่อื่น ส่วนการแก้ปัญหานั้น รัฐบาลจะได้มีการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ให้ประชาชนในพื้นที่ ได้รับการฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ได้ร้อยละ 70 เพื่อเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นความศรัทธาในเรื่องวัคซีนที่ประชาชนไม่ยอมรับ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์เรื่องการใช้ชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนในมาตรการเว้นระยะห่าง ล้างมือ และให้คิดว่าทุกคนมีความเสี่ยง Universal พร้อมใช้มาตรการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Prevention for COVID-19) ซึ่งจะเป็นแนวทางการในการแก้ไขอย่างสำเร็จ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า วันที่ 1 พ.ย.64 จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการ โดยเฉพาะการเปิดรับการท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ประชาชนจะต้องได้รับวัคซีนเพื่อให้มีภูมิต้านทาน หลังจากนั้นอีก 1 เดือนข้างหน้า ภายในวันที่ 1 ธ.ค. จะขยายพื้นที่เพิ่ม เมื่อประชาชนเริ่มมีภูมิคุ้มกันมากยิ่งขึ้น การติดเชื้อลดน้อยลง การเสียชีวิตลดลง และจะกลับมามีวิถีชีวิตตามปกติ ควบคู่กับมาตรการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ นายอนุทินได้มอบยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย (8 รายการ) จำนวน 3,000 ชุด หน้ากากอนามัย 20,000 ชิ้น พร้อมยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 50,000 เม็ด ให้กับแม่ทัพภาคที่ 4 และยังมอบชุดตรวจ ATK จำนวน 30,000 ชุด และยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 350,000 เม็ด ให้กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา
จากนั้นนายอนุทินและคณะ ได้เดินทางไปยังหน่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 จังหวัดยะลา อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ในการปฏิบัติงานฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่ก่อนจะเดินทางไปยัง จ.ปัตตานี ต่อไป
