เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 17 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวิษณุ เครืองาม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯและคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง โดยเครื่องบิน ซี-130 ของกองทัพอากาศ ไปยังจ.แม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจราชการติดตามการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งจ.แม่ฮ่องสอน ถือเป็นจังหวัดอันดับต้นๆที่มีปัญหา

ต่อมาเวลา 09.15 น. นายกฯและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ข้าราชการและประชาชน มาต้อนรับ จากนั้นนายกฯ เดินทางต่อไปยังโรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์ฯ ต.จองคำ อ.เมือง ด้วยรถตู้อัลพาร์ด ทะเบียน 2266 เชียงใหม่ เพื่อติดตามโครงการจัดการที่ดินทำกินให้กับชุมชนของจ.แม่ฮ่องสอน

เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมบุญชู ตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์ฯ ต.จองคำ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานสักขีพยานมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ตามนโยบายรัฐบาล และกล่าวกับประชาชนว่า ตนมาในนามของนายกฯ รัฐบาล คสช. และครม. เข้าใจว่าน่าจะเป็นคณะใหญ่ที่สุดที่เคยมาแม่ฮ่องสอน และเป็นรัฐบาลแรกที่เอาคนมาดูแลพวกเรามากขนาดนี้ เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ รัฐบาลนี้จะเข้ามาแก้ไขให้เป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ได้ทำเพื่อการเมืองอะไรทั้งสิ้น

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไม่สามารถพัฒนาด้วยระบบพรรคการเมืองได้ทั้งหมด มันเป็นเรื่องของทุกรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลนี้ รัฐบาลหน้า หรือต่อๆไป ต้องเดินหน้าควบคู่กับนโยบายของพรรค คือนโยบายของรัฐบาลที่จำเป็นต้องดูแลคนทุกจังหวัด ฉะนั้น ส.ส.ต่างๆ ที่รับเรื่องมา จะเป็นผู้ติดตามปัญหาอุปสรรค และเสนอเข้าในครม. ซึ่งครม.ต้องพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรมทั่วถึงทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะตามนโยบายพรรค หรือตามที่ส.ส.ขอไปเฉพาะพื้นที่ของตัวเองเท่านั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินในระยะต่อไป ซึ่งเราได้วางพื้นที่ฐานว่า ประเทศเราต้องมียุทธศาสตร์ชาติ มีการปฏิรูปในทุกกิจกรรม ทุกเรื่อง หัวใจของการทำงานของทุกรัฐบาล ของข้าราชการทุกคน จะต้องทำงานโปร่งใส มีประสิทธิภาพ คุ้มค่างบประมาณที่ลงไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เรามาดูว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการมีอะไรบ้าง อะไรที่ทำให้ได้ก็จะทำทันทีในปีนี้ มันไม่ใช่ว่าตนมาเพื่อสร้างคะแนนนิยม ตนจำเป็นต้องมาอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องมา ขออย่าวิตกกังวลเรื่องรายได้ รัฐบาลนี้จะทำให้ดีขึ้น เร่งรัดทุกกระทรวงให้ลงมาดูแลให้มากที่สุด และรัฐบาลต่อไปที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ตนเรียกว่ารัฐบาลหรือประชาธิปไตยไทยนิยม ที่ตนพูดไทยนิยม เห็นด้วยกับตนหรือเปล่า ตนไม่ได้หมายความว่าต้องมาชื่นชมตน ชื่นชมสิ่งที่ตนพูดว่าสิ่งที่ตนจะทำและส่งต่อให้คนอื่นทำวันหน้า มันใช่อย่างที่ตนว่าหรือไม่ ถ้าใช่นั่นคือคนไทยทั้งประเทศต้องนิยมแบบนี้ คือทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ต้องได้รับการดูแล มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ละปัญหา นี่เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องทำ ฉะนั้นสิ่งที่ตนคาดหวังวันนี้ คือการทำความเข้าใจกับประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาจ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะสอดคล้องนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจนการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน หลายอย่างต้องพัฒนา ทุกอย่างอยู่ที่รายได้ของประชาชน ถ้าไม่พัฒนาก็จะเป็นอยู่แบบนี้ ไฟไหม้ฟ่างแบบวูบๆวาบๆ ถ้าเราไม่วางยุทธศาสตร์ให้ชัดเจน ตนคิดว่าจ.แม่ฮ่องสอนน่าจะดีขึ้นได้ภายใน 5 ปี ทำให้เร็วที่สุด ซึ่งทุกจังหวัดยังใช้ศักยภาพไม่มากนัก เพราะขาดพื้นฐานยุทธศาสตร์ที่จะเดินต่อไป

“ดังนั้น ฝากหวังเรื่องประชาธิปไตยของเราต่อไปว่า ต้องเป็นการเมืองที่ไทยนิยม คือเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ มีการปฏิรูปประเทศ ที่มีอยู่ 11 เรื่อง กว่าร้อยกิจกรรม ที่ผ่านมาไม่เคยมีแบบนี้รัฐบาลนี้จะทำไว้ให้ และใครที่สืบสานเรื่องเหล่านี้ นั่นแหละประชาธิปไตยไทยนิยม คนไทยทั้งประเทศรับได้ ถ้าทำเล็กๆน้อยๆ ทำโน้นทำนี้อย่างเดียวไม่ได้ ดูแล้วยนิยมไปอีกแบบหนึ่งที่ไม่ยั่งยืน ไม่เป็นวิสัยทัศน์ในระยะยาว” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการที่ดินของคสช. ที่ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีใครทำได้ รัฐบาลนี้ทำให้ได้ ขออย่าเอาไปจำหน่ายจ่ายแจกกันต่อไป เรามอบที่ดินทำกินให้สบายใจและถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ต้องกลัวใครเขาจับ เว้นแต่ไปบุกรุกใหม่ไม่ได้ ใครที่ยังไม่เรียบร้อยไม่สมบูรณ์ เราต้องจัดการและจะทำตลอดไป นี่คือนโยบายที่ตนจะส่งต่อให้ทุกรัฐบาล ไม่ว่าใครจะเป็น ถ้าเขาไม่ทำก็ค่อยว่ากันอีกที ทุกคนเป็นคนเลือกรัฐบาล ขอให้เลือกให้ถูก อย่าให้เขาพูดว่าอันนี้มาก็ได้ พออีกพวกมาไม่ได้ รัฐบาลทำอย่างนั้นไม่ได้ ต้องทำให้ต่อเนื่องไม่ว่าจะของใคร พรรคใคร ต้องทำต่อ นี่คือยุทธศาสตร์ชาติ ถ้าพรรคจะทำอะไรพิเศษขึ้นมาก็เรื่องของพรรค จึงต้องดูนโยบายหาเสียงด้วย ตนไม่ได้ว่าใคร เดี๋ยวหาว่ายุ่งกับนักการเมืองอีก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องสวัสดิการต่างๆ เราทำโครงการบัตรสวัสดิการคนจนระยะที่ 2 ทุกคนไปสมัครได้ อยากทำอะไรก็มีงบประมาณเพิ่มเติมให้ในส่วนของบัตรเหล่านั้น แต่ต้องสมัคร มันมีหลายกิจกรรม ถ้าให้เงินเปล่าๆ ฟรีๆ อย่างเดียวมันก็เหมือนเดิม หรือให้เป็นเงินสดก็ไปใช้อย่างอื่นอีก มันไม่น่าใช่แล้ว มันไม่ได้แบ่งเบาภาระของแม่บ้าน ขณะนี้จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของประชาชน แต่ถ้าท่านจะดีขึ้นต่อไปก็ต้องหาเงินให้ถูกวิธี

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อใช้แม่ฮ่องสอนโมเดล สร้างป่า สร้างรายได้ พ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เปิดประตูสู่ตะวันตก ยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาสิ่งที่ยั่งยืน บนพื้นฐานความพอเพียงนี้คือที่รัฐบาลต้องทำ และประชาชนต้องช่วย
จากนั้นนายกฯถามว่า ใครไม่ช่วยยกมือ วันนี้ตั้งใจมาทุกคน รองนายกฯ และรัฐมนตรี

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายกฯ พร้อมคณะ เดินทางมายัง ลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำปาย ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริฯ เพื่อเยี่ยมชมผลผลิตโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมรับฟังข้อเสนอของชาวแม่ฮ่องสอน 6 กลุ่ม เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ชาวแม่ฮ่องสอน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลโดยฝ่ายเศรษฐกิจกำลังเร่งรัดทำทุกอย่าง คนเป็นรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคใดต้องลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนทุกจังหวัด และนำเข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหาทั้งหมดโดยเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่วนนโยบายพรรคก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่ทำแต่นโยบายของพรรคโดยไม่ทำอย่างอื่นเลย ถ้าไม่ทำใหม่ ปัญหาก็ยังเป็นแบบเดิม ยอมรับว่าอาจจะไม่ทันใจบ้าง แต่ทุกอย่างจะมีความยั่งยืน

“หน้าที่ของพวกเราคือการดูแลประชาชน อย่าไปคิดอะไรเร็วๆ ว่าจะต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้ เพราะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง และล้มเหลวโดยสิ้นเชิงถ้าไม่มีการปรับปรุงแก้ไข ทุกคนต้องร่วมมือกับรัฐบาล ในเดือนหน้าเป้าหมายจะเริ่มทุกครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำว่าจะต้องทำอะไรก่อนหลัง จากนั้นบัตรคนจนจะเข้ามา เป็นการเพิ่มให้ แต่ต้องสมัครและต้องดูว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร ไม่ใช่จะให้เปล่าๆ ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าเป็นเรื่องประชานิยมอีก ขอให้ทุกคนทำเพื่อลูกหลาน และถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบ เพราะต้องบริหารจัดการให้ดี โดยประชาชนมีส่วนร่วม เพราะรัฐบาลมี 76 จังหวัด จะไปให้เงินสะเปะสะปะไม่ได้ แต่ถ้าดูแล้วอะไรให้ได้ก็จะอนุมัติให้ในวันเดียวกันนี้” นายกฯ กล่าว

“ขอร้องว่าอย่าเกลียดผมเลย และขอบคุณที่ยังมีคนรักอยู่บ้าง รักผมก็ขอบคุณ แล้วจะเลือกใครในวันที่มีการเลือกตั้ง” พล.อประยุทธ์ ถามชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านบอกว่าจะเลือกนายกฯนั่นแหละ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบทันทีว่า “อันนั้นค่อยว่ากันอีกรอบ เดี๋ยวจะหาว่าผมมาหาเสียง ยืนยันไม่ได้มาหาเสียง มาเยี่ยมเยียนในฐานะพี่น้อง วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่อการเมือง ถือว่าเป็นการมาพบกับครอบครัวของผม รวมถึงรองนายกฯและรัฐมนตรีทุกคน ขอให้ชาวบ้านยิ้มหวานๆ มีความสุขแล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน