เมื่อวันที่ 22 ก.พ. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบกรณีการปลอมลายมือชาวบ้านเพื่อเซ็นต์รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอชไอวีของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในหลายจังหวัด ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ว่า เรื่องนี้ไม่มีช่องโหว่ของกฎหมายอะไร ใครทำทุจริตก็เล่นงานกันไปและทราบว่ากำลังเล่นงานกันอยู่ ข่าวนี้ได้ระแคะระคายมาพอสมควรแล้ว ซึ่งทางพม.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบตั้งแต่เดือนก.ย.2560 พบมีการทุจริตในบางพื้นที่ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำหรับนักเรียนนักศึกษากลุ่มนี้ที่ชี้เบาะแสในพื้นที่นี้ถือว่าเก่งมาก ทำให้รู้ว่ามีการทุจริตในหลายเขต จึงให้มีการตรวจสอบทุกเขต ขอให้ดูความเคลื่อนไหวอีกไม่กี่วันนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตั้งคณะกรรมการสอบตั้งแต่เดือนก.ย.2560 เหตุใดผลสอบถึงยังไม่ออก รองนายกฯ กล่าวว่า ผลสอบคงใกล้จะออกแล้วและบังเอิญนักศึกษามาเจอเขตนี้ต้องสอบเพิ่มอีก ถ้ารีบเปิดออกมา แล้วคนที่ทำเกิดเป็นกลุ่มเดียวกันอาจจะมีการตัดตอนได้ คณะกรรมการจึงหวังว่าคนที่ถูกสอบจะให้การโยงไปถึงตัวการใหญ่ได้ และใครให้ความร่วมมือก็กันไว้เป็นพยาน

เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์แสดงว่าพบทุจริตมานานแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ กรณีนี้เหมือนกับการทุจริตเงินทอนวัดที่ทำกันเป็นขบวนการหรือเป็นแก๊ง ต้องลงมือสอบกันเป็นการใหญ่ ต่อข้อถามว่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องและยังอยู่ในตำแหน่งจะใช้มาตรา 44 สั่งพักงานหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ความจริงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 มีมาตราอื่นที่ใช้พักงานได้เยอะ และตนไม่ได้พูดว่าต้องพักงานหรือไม่

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญใหม่ทุกเรื่องเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.แต่ถ้ามีหน่วยงานไหนที่ทำอยู่แล้ว ก็ให้เขาทำไปก่อน แล้วจะให้เราไปสนับสนุนแบบไหนก็บอก ถ้าไปตรวจสอบเลยจะกลายเป็นว่าทำซ้ำซ้อนกัน ทั้งนี้ ต้องประสานงานกัน วันนี้ตนยังไม่เห็นข้อมูลดังกล่าว ให้เจ้าหน้าไปตรวจสอบอยู่ ถ้าได้ข้อมูลมาแล้ว คงจะแลกเปลี่ยนว่าเราจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน