“ตรีชฎา” เผย “หมอชลน่าน” คิกออฟแก้หนี้บุคลากรสาธารณสุข เดินหน้าปลดหนี้ทั้งในและนอกระบบ สนองนโยบายนายกฯ เปิดลงทะเบียน 8 ธ.ค.

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2566 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ประจำสำนักเลขานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ประกาศแก้หนี้ทั้งระบบเป็นวาระแห่งชาติ โดยเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป

ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ได้มอบนโยบาย “แก้หนี้ เสริมกำลังใจให้คนสาธารณสุข” ไปยังบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ถือเป็นวันคิกออฟเริ่มต้นเดินเครื่องกระบวนการ “ปลดหนี้ เพื่อชีวีเป็นสุข”

คืนอิสรภาพและความหวังที่ถูกพรากไป เพื่อให้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข มีขวัญกำลังใจปฏิบัติงานดูแลคนไทยให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคือจะต้องไม่มีหนี้มีสิน เป็นทางออกของการแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งให้กับข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า สำหรับหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูงผิดปกติ ได้สร้างภาระบีบคั้นกับบุคลากรสาธารณสุขอย่างมาก ซึ่ง นพ.ชลน่าน มีความห่วงใยและได้วางนโยบายไว้ว่าจะต้องปลดทุกข์เรื่องนี้ให้ได้ โดยตั้งคณะทำงานเจรจาหาทางออกระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับธนาคารออมสิน จัดให้มีคลินิกรักษาสุขภาพความมั่นคงทางการเงินทุกแห่งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในโรงพยาบาลทุกระดับและได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ลูกหนี้ที่อยู่ในภาวะวิกฤตจะเร่งช่วยเหลือโดยเร่งด่วน สถาบันทางการเงินจะเข้ามามีส่วนแก้ปัญหา

น.ส.ตรีชฎา กล่าวอีกว่า บุคลากรสาธารณสุข นอกจากประกอบไปด้วยวิชาชีพด้านการแพทย์ พยาบาล เภสัชกรและอื่นๆ แล้ว ยังรวมถึงข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานกระทรวง พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างโครงการ ตลอดทั้งอาสาสมัครด้านสาธารณสุข แม้ว่าโดยทั่วไปจะมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แต่ก็มีอีกจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน

จากผลสำรวจของ Happy Money ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 16 พ.ย.64 พบว่า บุคลากรสาธารณสุขมีหนี้ครัวเรือน 62,764 คน ส่วนใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งเป็นหนี้สหกรณ์ รองลงมาคือกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ กู้เพื่อการศึกษา ขณะที่สถานะทางการเงินพบว่ารายได้เพียงพอกับรายจ่าย แต่ไม่เหลือเก็บ 41.1% รายได้มากกว่ารายจ่าย 34.20%

“รมว.สาธารณสุขเข้าใจปัญหาชีวิตของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขที่เดือดร้อนในเรื่องนี้เป็นอย่างดี โครงการช่วยเหลือในครั้งนี้จะทำให้บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขมีเงินเหลือเก็บได้มากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายภาพรวมของกระทรวงได้ถึง 6,000 กว่าล้านบาทต่อปี ต่อยอดจากโครงการแก้หนี้ทั้งระบบของนายกฯ ในทันที โดยเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 8 ธ.ค.เป็นวันแรก คาดว่าจะมีบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก” น.ส.ตรีชฎา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน