ศูนย์ฝึกดับเพลิง-กู้ภัย กทม. ส่อแววไร้คนลงนามยกเลิกโครงการเดินที่สามพราน เหตุข้าราชการหวั่นถูกสอบ-ผู้รับจ้าง จ่อร้องป.ป.ช.เอาผิด

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2567 ที่ศาลาว่าการกทม. นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัยกรุงเทพมหานคร ว่า หลังจากคณะผู้บริหารเห็นควรยุติโครงการเดิมที่จะก่อสร้างบนพื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยให้มาก่อสร้าง ที่ศูนย์ฝึกอบรมสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ของสนามบางกอกอารีน่า เขตหนองจอก ด้วยเหตุผลเรื่องผังเมืองที่ไม่สามารถทำได้

ขณะนี้สำนักการโยธา (สนย.) อยู่ระหว่างออกแบบพื้นที่ให้มีความเหมาะสม และเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ก่อนเสนอผู้ว่าฯกทม. ให้ความเห็นชอบแบบดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนโครงการที่สามพราน ที่ได้ผู้รับจ้างดำเนินการไปแล้วนั้น สนย.ได้เสนอไปยัง รองผู้ว่าฯกทม. เพื่อลงนามยกเลิกการประกวดราคาหาผู้รับจ้างดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับโครงการศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัยกรุงเทพมหานคร เดิมมีแผนก่อสร้างบนที่ดินของกทม. ในพื้นที่ ต.ท่าตลาด อ.สามพราน โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ว่าจ้างสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อศึกษาและออกแบบ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัยกรุงเทพมหานคร มูลค่า 3,460,664,668 บาท แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ

ระยะแรก สปภ.ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 1 ล้านบาท สปภ.จึงโอนงบประมาณไปให้สำนักการโยธา (สนย.) เพื่อดำเนินการก่อสร้าง จนได้ตัวผู้รับจ้างก่อสร้างตามขั้นตอนการประมูลงาน เมื่อได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว สนย.จึงเสนอขออนุมัติสั่งจ้างก่อสร้าง ต่อรองผู้ว่าฯกทม. ที่ได้รับมอบอำนาจจาก ผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้ลงนามอนุมัติการว่าจ้างก่อสร้าง

แต่รองผู้ว่าฯกทม. ไม่ลงนามว่าจ้างผู้ก่อสร้างตามขั้นตอน พร้อมทั้งสั่งให้สปภ. ประสาน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร(ก.ก.) และสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล ทบทวนโครงการและรูปแบบการก่อสร้างดังกล่าว โดยยึดความถูกต้องเหมาะสมและความคุ้มค่า ซึ่งสปภ.ได้ดำเนินการและรายงานให้ทราบแล้ว

จากนั้นคณะผู้บริหาร เห็นควรให้ยกเลิกการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อย้ายมาก่อสร้างในพื้นที่เขตหนองจอก แทน โดยให้เหตุผลว่า ผิดหลักการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามผังเมืองกำหนด และเพื่อความสะดวกในการดำเนินงาน เพราะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ มท.1712.1/17979 ลงวันที่ 24 ต.ค.66 ระบุข้อชี้แจงแนวทางดำเนินการก่อสร้างโครงการศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงฯ ตามโฉนดที่ดิน 3 แปลง ของ กทม. ได้แก่ โฉนดที่ดินเลขที่ 763, 766, 17604 ในพื้นที่จ.นครปฐม ว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงการดังกล่าว เป็นไปตามเจตนารมณ์การใช้ที่ดินเพื่อสถาบันราชการ ของกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนอ้อมใหญ่ จ.นครปฐม พ.ศ.2562 ภายใต้การพิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดิน 3 สี ได้แก่

สีเหลือง ประเภท ย.1 ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย พิจารณาแล้วสามารถทำได้ สีเขียว ประเภท ก.1 ถึง ก.3 ชนบทและเกษตรกรรม พิจารณาแล้วสามารถทำได้ และ สีเขียวอ่อน ประเภท ล. ที่โล่ง เพื่อนันทนาการและรักษาสิ่งแวดล้อม พิจารณาแล้วทำไม่ได้ ซึ่งพื้นที่สีเขียวอ่อน ประเภท ล. เป็นพื้นที่ริมคลอง ริมสระ ไม่อยู่ในแผนการออกแบบและไม่กระทบต่อการก่อสร้างโครงการใด ๆ
ทั้งนี้ หนังสือจากกรมโยธาฯ ดังกล่าว ขัดแย้งกับเหตุผลที่กทม.ชี้แจงไว้

รายงานข่าวแจ้งว่า การย้ายโครงการก่อสร้างมาก่อสร้างที่หนองจอก จำเป็นต้องยกเลิกโครงการเก่าก่อน จึงจะเริ่มโครงการใหม่ได้ โดยต้องผ่านความเห็นชอบจากสภากทม. แต่กทม.ไม่มีเหตุผลเพียงพอในการยกเลิก ทำให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องไม่กล้าลงนามเพราะกลัวความผิด หากลงนามไป อาจถูกตรวจสอบภายหลังแน่นอน เพราะก่อนที่จะของบประมาณ หน่วยงานจะต้องเสนอโครงการ โดยมีเหตุผลและความจำเป็น จนผ่านความเห็นชอบจากสภากทม. ในการอนุมัติงบประมาณ

ขณะเดียวกัน หากลงนามยกเลิกโครงการอย่างเป็นทางการ ผู้รับจ้างโครงการดังกล่าว มีสิทธิ์ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากกทม.ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ดำเนินการมาอย่างครบถ้วน และไม่มีเหตุผลยกเลิกผู้รับจ้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโครงการดังกล่าวยังไม่มีการลงนามยกเลิกแต่อย่างใด เพราะผู้บริหารทราบอยู่แล้วว่าไม่สามารถยกเลิกโครงการได้ ดังนั้น โครงการนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบและถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน