วันที่ 21 มี.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า ถ้านายกฯ จะเชิญพรรคการเมืองพูดคุยช่วงเดือนมิ.ย.ก่อนกำหนดวันเลือกตั้งจริง ก็ทำได้ ส่วนจะไปกันหรือไม่ ย่อมถือเป็นสิทธิ์เพราะไม่ใช่วาระที่บัญญัติไว้เป็นกฎหมาย และไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขถึงขั้นถ้าไม่ไปก็กำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้ ตามกรอบเวลาช่วงดังกล่าวกำลังจะปลดล็อก จึงไม่ควรมีบรรยากาศการใช้อำนาจหรือกดดันใดๆ เพื่อให้ทุกพรรคทุกฝ่ายมีอิสระเตรียมตัวลงสนามภายใต้กติกาใหม่อย่างเต็มที่

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทั้งนี้ ถ้าจะมีพรรคไหนเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯในการเลือกตั้ง ก็น่าจะเป็นพรรคเดียวที่ต้องอธิบายแนวคิดทุกแง่มุมให้พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบเพื่อพิจารณา แต่สำหรับพรรคอื่น ไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคู่แข่งกันในสนามเลือกตั้ง หรือคู่ชิงตอนตั้งนายกฯคนในกับคนนอก และการไปพูดเรื่องแนวคิดการทำงานต่างๆ จะมีปัญหาเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่

เลขาธิการนปช. กล่าวอีกว่า หากฝ่ายผู้มีอำนาจต้องการหลักประกันว่าทุกพรรคจะเดินตามแนวทางที่วางไว้ กติกาที่ร่างมาและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็น่าจะเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเค้นคอให้พูดอะไรอีก แต่เชื่อว่าจะมีหลายพรรคกำหนดยุทธศาสตร์ความสำเร็จในการเลือกตั้ง โดยเสนอแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมต่างกับรัฐบาลนี้ ซึ่งถ้าแนวทางดังกล่าวได้รับการตอบรับจากคนส่วนใหญ่จริง ทุกฝ่ายก็ไม่ควรฝืนมติประชาชน ยุทธศาสตร์ 20 ปีก็ต้องทบทวนด้วย

“สิ่งที่ควรจะเป็นวันนี้คือ แม่น้ำ 5 สายและทุกกลไกอำนาจที่ขับเคลื่อนบ้านเมืองมาเกือบ 4 ปีต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าการเลือกตั้งจะไม่ถูกเลื่อนไปอีก ส่วนพรรคไหนจะทำอะไรควรให้ประชาชนตัดสินใจเองเมื่อถึงเวลานั้น” นายณัฐวุฒิ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน