ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แพทย์หญิงซอมญ่า ซวามินาทน(Dr. Soumya Swaminathan) รองผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกและคณะทำงานระหว่างหน่วยงานสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องโรคไม่ติดต่อ (United Nations Interagency Task Force (UNIATF) on NCDs) ร่วมกันแถลงข่าวผลการประเมินการดำเนินงานด้านการป้องกัน ควบคุมโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในประเทศไทย ณ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทรรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ารัฐบาลโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ และการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคไม่ติดต่อ เน้นการป้องกันก่อนการรักษาอย่างมีคุณภาพ ด้วยงบประมาณที่เหมาะสม แก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและครบวงจร โดยกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุข และมอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนหลักประสานทุกภาคส่วนในการดำเนินการ และติดตามอย่างเร่งด่วน ทำให้ในปี 2560 องค์การอนามัยโลกประเมินให้ไทยมีผลการดำเนินงานในการป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อ ที่มีความก้าวหน้าเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ได้แสดงความชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญ และความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน โดยจะผลักดันการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs) ให้ความสำคัญกับการป้องกันควบคู่ไปกับการรักษา เป็นคำมั่นสัญญาที่จะนำประเทศไทยไปสู่ Free of NCDs society

นอกจากนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการที่สำคัญเพื่อปกป้องประชาชนจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆเช่นการยกระดับกฎหมายว่าด้วยการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ การห้ามใช้ไขมันทรานส์การส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย และการออกมาตรการภาษีสำหรับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูง ซึ่งส่งผลให้การบริโภคยาสูบลดลงทำให้ผู้ผลิตเครื่องดื่มปรับส่วนผสมให้มีน้ำตาลน้อยลงซึ่งประเทศไทยจะยกระดับการดำเนินงานป้องกันโรคไม่ติดต่อของทุกภาคส่วนให้เป็นไปในทางเดียวกันเพื่อประชาชนมีสุขภาพดีลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อลง 1 ใน 3 ภายในปี 2573

สำหรับโรคไม่ติดต่อ โดยเฉพาะโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทยจำนวนกว่า 400,000 ราย หรือเท่ากับร้อยละ 71 ในแต่ละปี โดยส่วนใหญ่เป็นการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่สามารถป้องกันได้ ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงหลักที่ส่งผลให้ภาระโรคจากโรคไม่ติดต่อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วคือการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และขาดการออกกำลังกายในปี2552ประเทศไทยเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อสูงถึง 198.512 พันล้านบาท

ทั้งนี้ UNIATF เป็นคณะทำงานเฉพาะกิจขององค์การสหประชาชาติที่ตั้งขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างทุกหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคมและภาคเอกชน ในการจัดการปัญหาโรคไม่ติดต่อ เพื่อบรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และส่งเสริมการจัดระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า

ในขณะที่แพทย์หญิง ซอมญ่า สวามินาทานรองผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำในเรื่องนโยบายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและสุรา รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย อย่างไรก็ดีโรคไม่ติดต่อยังเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนและการพัฒนาประเทศ ในการรับมือกับโรคไม่ติดต่อ ประเทศไทยจะต้องยกระดับการดำเนินงานของทุกภาคส่วนอย่างสอดประสานภายใต้การนำจากรัฐบาลในระดับสูงสุดเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนคือหัวใจของนโยบายรัฐทุกๆนโยบาย

การรับมือกับความท้าทายจากโรคไม่ติดต่อต้องอาศัยการทำงานอย่างเป็นเอกภาพของทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่ภาคสาธารณสุขเท่านั้น แต่รวมถึงการคมนาคม การพัฒนาชุมชนและผังเมือง การศึกษาและการเงินการคลัง ซึ่งประเทศไทยมียุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อและปัจจัยเสี่ยงร่วมกันอยู่แล้ว แต่จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทุกหน่วยงานลงทุนและลงแรงในการส่งเสริมสุขภาพและจัดการกับโรคไม่ติดต่ออย่างจริงจัง

นอกจากนี้คณะทำงานฯ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในเรื่องสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี และการลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนและสาเหตุอื่นๆ โดยคณะทำงานฯ ประกอบด้วยผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ โครงการอาหารโลก และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ

ด้านน.ส.เดียร์ดรา บอยด์ ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทยกล่าวว่าการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเป็นงานของทุกคน ทีมงานสหประชาชาติประจำประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อเอาชนะโรคไม่ติดต่อ หลังจากการมาเยือนของคณะทำงานฯ ครั้งนี้เราจะทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนรัฐบาลไทยในการจัดการกับสาเหตุของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน ผ่านการดำเนินงานภายใต้หลักฐานเชิงประจักษ์และความร่วมมือของทุกภาคส่วน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน