ตลอดฤดูฝน4 เดือนนี้ ระหว่างมิถุนายน-กันยายน 2562การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) “ภูมิภาคภาคตะวันออก” เป็นพื้นที่ทางเลือกมาแรง ล่าสุดจับมือกับพันธมิตร “เอสเอ็มอี แมกกาซีน” นำผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เกือบ 100 ราย โหมกระแส More Fun ตะวันออก ด้วยโครงการ “Rally SME STARTUP TOGETHER TRIP 2019 : เล่น ซ่อน เที่ยว ไปเฟี้ยวกันที่ปราจีนฯ”ปลุกจุดขายเทรนด์ใหม่ท่องเที่ยวควบคู่กับทำกิจกรรมซีเอสอาร์บุกเจาะตลาดเพิ่ม2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ ครอบครัว และนักเดินทางอิสระขับรถเที่ยว (F.I.T.)หันมาเที่ยว3 เมืองรอง นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว

วิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

“วิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท.เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์แนะนำเส้นทางขับรถท่องเที่ยวใหม่ ๆ จากกรุงเทพฯ มุ่งสู่เมืองรองแรก“นครนายก”แวะเช็คอินกินอาหารเช้าที่ “สวนป้าอินทร์” คลอง 15 ภายในมีทั้ง ร้านอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ สไตล์เก๋ ๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางพันธุ์ไม้ร่มรื่นเขียวขจี จากนั้นก็มุ่งหน้าไปทำกิจกรรมซีเอสอาร์ “ปลูกป่าสร้างบ้านให้เหยี่ยวดำ” ในอำเภอปากพลีบริเวณทุ่งใหญ่สาธารณะ พื้นที่กว่า 1,500ไร่ สร้างบ้านให้เหยี่ยวดำและเหยี่ยวไซบีเรียอพยพหนีหนาวได้มาพักอาศัยช่วงพฤศจิกายน-มีนาคม ของทุกปี ป่าแห่งนี้อยู่ในความดูแลของ อบต.ปากพลี คิดค่าบริการทำซีเอสอาร์คนละ 400 บาท โดยจัดเตรียมต้นไม้ใหญ่และอุปกรณ์พร้อมเมื่อนักท่องเที่ยวไปถึงก็ลงมือปลูกได้ทันที กิจกรรมนี้กลุ่มครอบครัวและคาราวานขับรถเที่ยวชื่นชอบมาก

เมืองรองที่สอง “ปราจีนบุรี” ชูจุดขายเมืองสุขภาพและวิถีวัฒนธรรม ชวนไปเที่ยวมุมใหม่ๆ 6 สถานที่ ได้แก่ สถานที่แรก “บ้านเล่าเรื่อง” ร้านอาหารออร์แกนิกซึ่งอยู่ภายใต้มูลนิธิอภัยภูเบศร์ ตั้งอยู่ริมน้ำและใกล้ศาลหลักเมือง เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวภายในจัดทำนิทรรศการเล่าเรื่องความเป็นมาเมืองปราจีนบุรี โดยมีไฮไลต์คือ เสิร์ฟเมนูอาหารถิ่น ทั้งคาว หวาน เครื่องดื่ม ทำจากสมุนไพรนานาชนิดดูแลธาตุทั้ง4 ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ

สถานที่ 2 “ภูมิภูเบศร์” เป็นหนึ่งในโครงการของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ได้ยกบ้านหมอพลอย (แพทย์แผนไทยสมัยรัชกาลที่ 5) เรือนไม้สองชั้นจากสีลมไปตั้งไว้ริมทะเลสาบ เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ และสอนนักท่องเที่ยวสนุกกับการทำ D.I.Y.ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เช่น ยาดม ยาสีฟัน ผ้ามัดย้อมเปลือกสมุนไพร และอื่น ๆ พร้อมทั้งจำหน่ายสมุนไพรแปรรูป

สถานที่ 3 “เรเซนนิตี้ โฮเต็ล รีสอร์ต สปา แอนด์ ออนเซน กบิลทร์บุรี” เป็นที่พักสุขภาพมีบริการออนเซนมาตรฐานเทียบชั้นญี่ปุ่น สนนราคาห้องพัก 2,000 บาทขึ้นไป/ห้อง/คืน นักท่องเที่ยวสามารถแช่ออนเซนบ่อร้อนบ่อเย็นได้ตามสบาย

สถานที่ 4 “วัดแก้ววิจิตร” มีอุโบสถสีแดงชมพูโดดเด่นด้วยศิลปะผสมผสาน 4 ชาติ มีทั้งไทย ขอม จีน และยุโรป ภายในมีพระพุทธรูปองค์ดำศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ด้วย ริมน้ำมีแพยาวให้นักท่องเที่ยวพาครอบครัวลงไปซื้ออาหารเลี้ยงปลาได้

สถานที่ 5 “พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรี” เพิ่งปรับปรุงเสร็จ เปิดทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 9 โมงเช้า – 4 โมงเย็น ปิดทุกจันทร์-อังคาร ภายในมีพระพิฆเนศแกะสลักจากหินอายุกว่า 1,000 ปี เป็นแม่เหล็ก

ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปสักการะได้เป็นอย่างดี โดยได้แบ่งห้องเล่าเรื่องแบ่ง 5 ห้อง ประกอบด้วย 1.ห้องประวัติศาสตร์และโบราณคดีภาคตะวันออก 2.ห้องพัฒนการของชุมชนและเมืองโบราณในภาคตะวันออก 3.ห้องชุมชนโบราณในภาคตะวันออก 4.ห้องวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกง 5.ห้องเมืองศรีมโหสถ นครรัฐแห่งแรกเริ่มแหล่งลุ่มน้ำบางปะกง ราคาเข้าชมคนไทย 30 บาท

สถานที่ 6 “เทศกาลผีเสื้อปางสีดา” ระหว่างมิถุนายน-สิงหาคม นี้ บริเวณโป่งผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จะคราคร่ำไปด้วยฝูงผีเสื้อกว่า 400 สายพันธุ์ บินโฉบไปมาหลังฝนตกเพื่อรับแสงแดดจ้า โดนใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีสายพันธุ์หาดูยากอย่าง หนอนคูน หางดาบลายจุด หนอนจำปี

เมืองรองที่สาม “สระแก้ว” ททท.ชูจุดขายการท่องเที่ยวหน้าฝนตอนนี้มีแหล่งท่องเที่ยวเก๋ ๆ อินเทรนด์เพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง อยู่บริเวณพื้นราบหน้าเขาฉกรรจ์ ได้แก่ “WOOD HOUSE” ดินแดนทุ่งดอกดาวกระจาย ทานตะวัน เหลืองอร่าม กับ “มีเขามีเรา” แหล่งรวมดอกไม้หลากสีสไตล์ยุโรปปลูกสลับอยู่กลางทุ่งกว้าง ทั้ง 2 แห่ง จะตกแต่งคล้ายคลึงกันคือ มีบริการร้านกาแฟ มุมทำ D.I.Y.และทางเดินไม้ระแนงลัดเลาะผ่ากลางดงดอกไม้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน

ขณะที่ “ร้านอาหาร” ต้องที่ “Coffee Hill Cafe” สระแก้ว สร้างสไตล์คอนเท็มโพลารี่ เพดานสูงโป่ง เหมือนนั่งอยู่ในเมืองชนบทของยุโรป ขายอาหารจานเดียว ประเภท เบอเกอร์เนื้อวากิว สลัดแซลม่อน สปาเก็ตตี้ และเครื่องดื่ม ชา กาแฟ เค้ก เบเกอรี่ นานาชนิด ทั้งคาวและหวานอร่อยทุกเมนู

สกล ทองคำผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครนายก

“สกล ทองคำผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครนายก กล่าวว่า ดูแลตลาดการท่องเที่ยว 3 จังหวัด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว เมื่อปี 2561 สามารถนำรายได้กระจายเข้าสู่ท้องถิ่นรวมกว่า 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็น นครนายกเกือบ 7,000 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยว 3.4 ล้านคน แนวโน้มอีก 3-4 ปีหน้า จะยกระดับเป็นเมืองหลักมีนักท่องเที่ยวเกินปีละ 4 ล้านคน ส่วนปราจีนบุรีมีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท สระแก้วกว่า 4,000 ล้านบาท

ตลอดหน้าฝนเป็นไฮซีซันหรือฤดูท่องเที่ยวของ3 จังหวัดนี้ ซึ่งมีพื้นที่เที่ยวป่าหน้าฝนเขียวชอุ่ม รวมถึงนครนายกมีชื่อเสียงแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกขึ้นชื่ออย่างสาลิกา นางรอง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก และกิจกรรมล่องแก่งจะคึกคักมาก รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าถึงได้ง่าย เป็นผืนป่าสมบูรณ์สุดใกล้กรุงเทพฯ ททท.และผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ภาคเอกชน หน่วยงานต่าง ๆ จึงร่วมมือกันรักษาจุดแข็งเรื่องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อย่างยั่งยืน (Green Tourism)

ขณะนี้ในแต่ละสัปดาห์จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เข้านครนายก ตั้งแต่วันแรงงานต้นเดือนพฤษภาคมจนถึงขณะนี้ มีวันละเกือบแสนคน ทั้งจังหวัดมีโรงแรมรีสอร์ตรองรับกว่า 6,000 ห้อง ทั้งขนาดใหญ่ขนาดกลางและขนาดเล็ก ถึงแม้ราคาห้องพักเทรนด์ใหม่จะเริ่มที่2,500 บาท/ห้อง/คืน ยอดจองพักก็เต็มทุกทุกสัปดาห์

ปี 2562 ททท.ได้วางตำแหน่งให้ “นครนายก” เป็นเมืองท่องเที่ยวสไตล์ด้านกิจกรรมกลางแจ้ง ได้แก่ การปั่นจักรยานท่องเที่ยว ล่องแก่ง ชมน้ำตก เที่ยวธรรมชาติ

ส่วน “ปราจีนบุรี”เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไฮไลต์คือโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ ล่าสุดเปิด“ภูมิภูเบศร์” ยกบ้านหมอพลอยเรือนไม้จากสีลมซึ่งเป็นเอกลักษณ์หมอสมัยรัชกาลที่ 5มาตั้งไว้ติดทะเลสาบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยววันหยุดซึ่งมีจำนวนมาก ผนวกกับมีโครงการพระราชดำริโครงการสุดท้ายของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำสำเร็จแล้วในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงเสด็จเปิดเมื่อมกราคม 2562 คือ “เขื่อนห้วยโสมงนฤบดินจินดา” สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นผืนป่าสะอาดบริสุทธิ์ ทำให้ชุมชนท้องถิ่นมีรายได้จากการท่องเที่ยวเขื่อนเติบโตอย่างรวดเร็วมาก

อีกทั้งยังมีไฮไลต์ “เทศกาลดูผีเสื้ออุทยานแห่งชาติปางสีดา” ช่วง 21-23 มิถุนายน นี้ ทางอุทยานแห่งชาติปางสีดาเปิดให้เข้าชมฟรี โดยนักท่องเที่ยวสามารถดูผีเสื้อสวย ๆ กว่า 400 สายพันธุ์ได้จนถึงสิงหาคม 2562หรือจะมา “ล่องแก่งหินเพลิง” ความท้ายระดับ 3-4 ถ้าบางช่วงน้ำแรงก็จะต้องปิดบริการเพื่อความปลอดภัย แล้วก็ยังเป็น “แหล่งชมดอกหงอนนาค” บนพื้นที่ราบแห่งเดียวในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถมาดูความสวยงามได้ทุกปีช่วงสิงหาคม-กันยายน ของทุกปี สถิติปี 2561 มีนักท่องเที่ยวมากถึง 2-3 แสนคน

สำหรับ“สระแก้ว” เป็นเมืองท่องเที่ยวรอยต่อ ไทย-กัมพูชา แหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ก็มี“ปราสาทสะด็อกก๊อกธม”เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สร้างขึ้นในสมัยทวารวดีได้บำรุงรักษาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อด้วย “ชุมชนละลุ” ประติมากรรมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ (คล้าย ๆ แพะเมืองผีจังหวัดน่าน) มีร่องรอยการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา ชาวบ้านละลุจัดตั้งคณะกรรมการวางระบบจัดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี มีบริการโฮมสเตย์และแต่ละบ้านนำรถอีแต๊กที่ว่างเว้นจากการทำเกษตรมาเข้าคิวบริการนักท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นต้นแบบการพัฒนาท่องเที่ยวชุมชนแหล่งศึกษาเรียนรู้ดูงานที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกปี และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติแห่งใหม่บริเวณหน้าเขาฉจรรก์

ดังนั้น “นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว” จึงเป็น 3 เมืองรอง More Fun ตะวันออก “เมืองรอง ต้องลอง ต้องไป” ในเทรนด์ใหม่เท่ ๆ ท่องเที่ยวร่วมทำซีเอสอาร์สนุกกันได้ทุกกลุ่มทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา

เรื่องและภาพโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน:gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน