นายซี ฮอง เตียว กรรมการผู้จัดการบริษัท Phloenchit Medical Center ในนาม ไลฟ์ซาย เซ็นเตอร์ (LifeSci Center) ศูนย์สุขภาพองค์รวมเพื่อการดูแลร่างกายครบวงจร พร้อมด้วย รศ.นพ.ชาญวิทย์ โคธีรานุรักษ์ ประธานข้อมูลและการพัฒนาโปรโตคอลการวิจัยเพื่อEnercel ประโยชน์ต่อสุขภาพ และนายหยาง ซู ประธานบริษัท ลีสซิ่งไฟแนนซ์การคลังยา(กวางโจว) จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมเปิดงาน 2019 China Kunming International Health & Medical Expo หรืองานนิทรรศการมหกรรมสุขภาพและการแพทย์นานาชาติ ที่จะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคมนี้ ที่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยนายซี ฮอง เตียว เปิดเผยว่า “คุนหมิง เป็นเมืองที่รัฐบาลจีนส่งเสริมให้เป็นเมืองพัฒนาด้านการแพทย์อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นเมืองสำคัญด้านการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร อีกทั้งยังจะเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมไทย-จีน ที่จะเชื่อมด้วยรถไฟความเร็วสูง ถือเป็นประตูการค้าของทั้งสองประเทศ รวมถึงการที่ไทยโดยเฉพาะ กรุงเทพฯ เป็นฐานด้านการแพทย์เป็นประตูนำไปสู่กลุ่มประเทศอาเซียน
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจด้านความงาม สมุนไพรไทย และสปา ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความก้าวหน้าและมีชื่อเสียงของประเทศไทยจะเข้าร่วมงาน เพราะนอกจากได้นำสินค้าและบริการไปจัดจำหน่ายแล้ว ยังได้แสดงศักยภาพด้านการดูแลสุขภาพและการแพทย์ของไทยให้เป็นที่ประจักษ์
ที่สำคัญยังจะได้มีโอกาสเจรจาทางด้านธุรกิจกับผู้ประกอบการจากคุนหมิง เมืองที่นับได้ว่าเป็นเมืองแห่งสุขภาพที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของจีน ถือเป็นการต่อยอดและจุดเริ่มต้นของผู้ประกอบการที่จะได้ทำธุรกิจกับประเทศที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และในอนาคตอันใกล้นี้จะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างแน่นอน โดยคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมชมงานครั้งนี้นับแสนคน”
นายซี ฮอง เตียว ย้ำว่า งาน“2019 China Kunming International Health & Medical Expo” ถูกจัดขึ้นตามนโยบาย “เส้นทางสายไหม” การดูแลทางการแพทย์จากต่างประเทศและการรักษาพยาบาลข้ามพรมแดน เชื่อว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากและสามารถรวบรวมนักธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลกได้ โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2562 ณ คุณหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
“ผู้ประกอบการทางด้าน Medical ธุรกิจด้านความงาม สมุนไพรไทย และสปา สนใจเดินทางร่วมแสดงในงาน “2019 China Kunming International Health & Medical Expo” สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณสุพรทิพย์ 081–3545508 คุณณัฐชา 081-6954385 ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 20 ก.ค.นี้” นายซี ฮอง เตียว กล่าว
ขณะที่ รศ.นพ.ชาญวิทย์ ระบุว่า เทรนการรักษาสุขภาพในปัจจุบัน คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และธุรกิจด้านสุขภาพ ก็กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันพบว่า มีผู้ป่วยจากโรคร้ายแรง และโรคชนิดใหม่ มากขึ้น อาทิ โรคเครียด ไวรัสชนิดต่าง ๆ รวมถึงโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหาร สิ่งเหล่านี้ ทำให้ประชาชนประสบกับปัญหาโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้น แต่ทั้งนี้การรักษาพยาบาลของไทย ถูกพัฒนาขึ้นตามลำดับซึ่งมีศักยภาพสูง สามารถที่จะดึงกลุ่มลูกค้าได้จากทั่วโลก โดยเฉพาะจากประเทศจีน ที่มีความต้องการทางด้านการแพทย์ ดังนั้นผู้ประกอบการไทย ที่มีแนวคิดในเรื่องนี้ จะต้องร่วมมือกัน เพราะต้องยอมรับว่านวัตกรรมด้าน IVFของจีนยังพัฒนาไม่มากเท่าประเทศไทย และสัดส่วนการใช้บริการทางการแพทย์ในจีนมีบุคลากรไม่เพียงพอ ดังนั้นวงการทางการแพทย์ไทย จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จีนจะหันมาใช้บริการ โดยย้ำว่า เรื่องนี้จะไม่กระทบกับคนไทย
ส่วน นายหยาง ซู บอกว่า เป็นโอกาสที่ดีวงการแพทย์ของไทย จะได้ร่วมมือกับอุตสาหกรรมการแพทย์ของจีน ซึ่งประเทศจีน ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะเมืองคุนหมิง ถือเป็นหน้าต่างในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ของจีน ซึ่งมีความสำคัญที่จะสามารถแลกเปลี่ยนทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ ดังนั้นการร่วมมือกันจะทำให้การพัฒนา และในปีนี้มณฑลยูนนาน ได้นำนโยบายการพัฒนาทางการแพทย์มาจัดแสดง ในงาน Expo ในครั้งนี้ด้วย จึงอยากให้ทุกฝ่ายตระหนักว่า การแบ่งปันทางการแพทย์นั้นมีความสำคัญ โดยหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้ ทางสถาบันทางการแพทย์ของไทย จะได้รับความไว้วางใจจากฐานกลุ่มลูกค้าประเทศจีนอย่างเต็มที่
