นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในการแถลงข่าวความพร้อมในการจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 (ASEAN Ministers on Energy Meeting and Associated Meeting หรือ 37th AMEM) ซึ่งจะจัดประชุมระหว่างวันที่ 2 – 6 กันยายน 2562
ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน จะเป็นเจ้าภาพจัดเวทีการประชุมสร้างความร่วมมือใน 3 กลุ่มด้านพลังงาน คือ 1.เวทีระหว่างอาเซียน 10 ประเทศ 2.เวทีระหว่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และ 3 เวทีระหว่างประเทศอาเซียนกับองค์กรระหว่างประเทศในประเด็นพลังงานต่างๆ โดยการประชุม AMEM ครั้งนี้จะอยู่ภายใต้แนวคิด Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation ที่จะมุ่งเน้นความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนสามารถก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ยั่งยืน
“การประชุม AMEM เป็นเวทีที่ไทยจะได้แสดงบทบาทในการขับเคลื่อนความมั่นคง และความยั่งยืนทางพลังงานร่วมกับประเทศในภูมิภาค ทั้งยังเป็นโอกาสที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงไฟฟ้าอาเซียน โดยอาศัยจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์และความหลากหลายของวัตถุดิบในการผลิตพลังงานทางเลือกที่สามารถนำมาพัฒนาได้” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับการประชุมในครั้งนี้จะมีส่วนสนับสนุนการดำเนินตามยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน แผนบูรณาการพลังงานระยะยาว พ.ศ. 2559-2579 อันจะสอดคล้องเป็นไปแนวทางเดียวกันกับแผนปฏิบัติการอาเซียนด้านพลังงาน (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation หรือ APAEC) พ.ศ.2559 – 2568 ระยะที่ 1 พ.ศ. 2559 – 2563 ระยะที่ 1 พ.ศ.2559-2563 อาทิ ขยายปริมาณรับซื้อไฟฟ้าโครงการ LTM-PIP จำนวน 300 เมกะวัตต์ ปรับมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในอาเซียน เป็นต้น
โดยมีกรอบความร่วมมืออาเซียนพลังงาน 7 สาขา และ 1 เครือข่ายความร่วมมือที่สำคัญ ประกอบด้วย 1) ความเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน
2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับขนส่งก๊าซธรรมชาติ
3) การส่งเสริมเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด
4) การส่งเสริมพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
5) การส่งเสริมพลังงานทดแทน
6) การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและอนุรักษ์พลังงาน
7) การจัดทำนโยบายและแผนอาเซียนด้านพลังงาน และเครือข่ายความร่วมมือด้านการกำกับกิจการพลังงาน