“เฉลิมชัย” ฟิตจัดเดินสายเร่งรัดติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้งภาคอีสาน พร้อมจี้กรมชลฯเร่งดำเนินการโครงการเพิ่มศักยภาพการเก็บกักน้ำทุกแห่ง เพื่อแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วม-น้ำแล้งในพื้นที่ภาคอีสานในระยะยาว พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน้อมนำแนวทางเกษตรผสมผสานและทฤษฎีใหม่มาให้เกษตรกรปรับใช้เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลัง ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำระบบแก้มลิงแก่งน้ำต้อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการเก็บกักน้ำเพื่อแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วม-น้ำแล้งในพื้นที่แบบระยะยาว เพื่อช่วยเหลือราษฎรไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเมื่อมีน้ำเพียงพอแล้วจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน้อมนำแนวทางเกษตรผสมผสานและทฤษฎีใหม่มาให้เกษตรกรปรับเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป

นายเฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการดังกล่าว กรมชลประทานได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) 400,000 บาทเพื่อศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของโครงการฯ คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2562 จากนั้นได้รับงบประมาณ 1,568,100 บาทเพื่อสำรวจขอบเขตโครงการ รวมถึงในปี 2561 ได้รับงบประมาณ 200,000 บาท ในการออกแบบโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อนระยะที่ 1 ปัจจุบันแก่งน้ำต้อนซึ่งมีพื้นที่หนอง 6,196 ไร่นั้นตื้นเขิน ช่วงฤดูน้ำหลากเกิดปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่บริเวณที่ลุ่มต่ำรอบๆ หนอง เนื่องจากพื้นที่หนองอยู่ติดกับลำน้ำชี ทำให้น้ำจากลำน้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมเป็นประจำ แต่ในช่วงฤดูแล้งมักประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากการกักเก็บน้ำได้ไม่เต็มศักยภาพความจุจึงทำให้ราษฎร 33,877 คนและพื้นที่การเกษตรโดยรอบกว่า 40,000 ไร่ขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค และการเกษตร

ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสองฝั่งลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมีพระราชดำริไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยขอนแก่นด เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2539 ความว่า “ลำน้ำชีในฤดูน้ำหลากน้ำท่วมพื้นที่สองฝั่งซึ่งเป็นห้วย หนอง บึง และพื้นที่สาธารณะมาก เมื่อถึงเวลาน้ำลด น้ำที่ท่วมพื้นที่ดังกล่าวก็ลดตามไปด้วยทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำตามเดิม จึงควรที่จะมีการสำรวจและหาวิธีเก็บกักน้ำให้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการเพาะปลูก” และเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2540 มีพระราชดำริกับแม่ทัพภาคที่ 2 ความว่า “ให้ประสานงานกับกรมชลประทานหรือหน่วยงานอื่นๆ ให้สำรวจพื้นที่อ่างรอบๆ จังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจารณาขุดลอกอ่างเก็บน้ำเสริมคันดินกั้นน้ำให้สูง เพื่อให้เก็บน้ำได้มากในฤดูฝน ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำนาปรังได้ รวมทั้งช่วยป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองขอนแก่น ในฤดูที่มีฝนตกหนัก และนอกจากนั้นจะช่วยให้สามารถนำมาใช้ในโครงการเกษตรน้ำฝนตามทฤษฎีใหม่ได้”

สำหรับแก่งน้ำต้อนอยู่ในพื้นที่ตำบลเมืองเก่าและตำบลดอนช้าง อำเภอเมืองขอนแก่น ศักยภาพเก็บกักน้ำ 7.431 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อนระยะที่ 1 โดยมีแนวทางที่จะขุดลอกขุดลอกพื้นที่บึงแก่งน้ำต้อนพร้อมปรับปรุงคันดินโดยรอบ 6,196 ไร่ ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ 9 แห่ง และก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำอีกกว่า 50 กิโลเมตร จะทำให้ปริมาณน้ำเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิม 7 ล้าน ลบ.ม. เป็น 41 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ครอบคลุม 40,000 ไร่ เป็นแหล่งรองรับน้ำและเก็บกักน้ำที่สำคัญของลำน้ำชี เพื่อช่วยลดปัญหาน้ำท่วมและปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของราษฎร ทั้งยังเก็บกักน้ำไว้สำหรับสนับสนุนการเพาะปลูกในพื้นที่การเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ให้ดีขึ้น


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน