การเทรดหุ้นเป็นการลงทุนที่นิยมกันมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการลงทุนแบบเงินต่อเงิน ไม่ต้องลงแรงกายมากและสามารถเลือกลงทุนได้ตามที่เรามีและต้องการที่จะลงทุน แต่สำหรับมือใหม่หลายๆ คนที่ไม่เคยเล่นหุ้นและไม่เคยเข้าตลาดหุ้นมาก่อน อาจจะเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการเริ่มต้นเทรดหุ้นอยู่ วันนี้ แอดมินจึงมีขั้นตอนการเทรดหุ้นพื้นฐาน ฉบับเข้าใจง่าย ที่มือใหม่ทำตามได้แน่นอนมาฝากทุกคน เพื่อให้มือใหม่ทุกคนเล่นหุ้นได้อย่างเข้าใจและรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้างเมื่อต้องเข้าสู่ตลาดหุ้น

  1. เปิดพอร์ต

อันดับแรกเลยก่อนที่เราจะเล่นหุ้นได้นั้น เราก็ต้องทำการเปิดพอร์ตหุ้นก่อน ซึ่งการเปิดพอร์ตหรือเปิดบัญชีซื้อขายสามารถเปิดได้กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ โดยการเลือกโบรกเกอร์ควรเลือกเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย เราอาจจะต้องตรวจสอบว่า โบรกเกอร์นั้น ๆ มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายสากลมั้ย? พื้นฐานการเงินในบริษัทหรือองค์กรเป็นอย่างไร? เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่า เงินที่เราลงทุนไปกับโบรกเกอร์นั้น ๆ จะไม่สูญหายหรือไม่เกิดการหลอกลวงที่อาจจะทำให้เราขาดทุน รวมถึงการคิดค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม ค่าสเปรด และค่าบริการอื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจของเราด้วย

  1. เลือกบัญชีที่เหมาะกับเรา

โดยทั่วไปแล้ว ทุกๆ โบรกเกอร์จะมีบัญชีหุ้นให้เราเลือก 3 ประเภท คือ

  • บัญชีเงินสด (Cash Account)

เป็นบัญชีหุ้นที่มีลักษณะการซื้อขายหุ้นด้วยเงินสดตามมูลค่าที่ซื้อ โดยจะทำการซื้อก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลังในวันทำการที่ 2 หรือ T+2 ส่วนการขายก็เช่นเดียวกันเราก็ต้องขายหุ้นก่อนแล้วจึงจะได้รับเงินวันที่ T+2 นอกจากนี้เทรดเดอร์ยังต้องมีหลักประกันในบัญชีก่อน อาจจะเป็นเงินสดหรือหุ้นก็ได้ ซึ่งมูลค่าของหลักประกันต้องมีตั้งแต่ 20% ขึ้นไปของมูลค่าที่สั่งซื้อ และสามารถซื้อหุ้นได้สูงสุดต่อวันไม่เกินที่โบรกเกอร์อนุมัติให้ได้ บัญชีเงินสดเหมาะกับเทรดเดอร์ทั่วไป แต่อาจต้องมีวินัยสักหน่อย เพราะการชำระเงินสำหรับการซื้อขายเป็นแบบ T+2

  • บัญชีวางหลักประกันเต็มจำนวน (Cash Balance)







Advertisement

เป็นบัญชีหุ้นที่มีลักษณะการซื้อหุ้นตามจำนวนเงินที่เราฝากไว้กับโบรกเกอร์ สมมุติว่า เราต้องการซื้อหุ้น A ในราคา 10,000 บาท เราก็ต้องเอาเงินไปฝากในบัญชี 10,000 บาทก่อน จึงจะทำการซื้อหุ้นตัวนั้นได้ ทำให้เทรดเดอร์ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินที่จะไม่พอจ่ายสำหรับหุ้นที่สั่งซื้อไป และสำหรับเงินที่ฝากโบรกเกอร์ไว้แต่ยังไม่ได้เอาไปทำการซื้อขายก็จะได้รับดอกเบี้ยจากโบรกเกอร์อีกด้วย ทำให้บัญชีประเภทนี้ได้รับความนิยมมากกว่าบัญชีแบบอื่นๆ เพราะเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไปที่ไม่ต้องการเสี่ยงซื้อหุ้นเกินวงเงินที่เรามีอยู่

  • บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Credit Balance)

มีอีกชื่อหนึ่งคือ บัญชีมาร์จิ้น (Margin Account) เป็นบัญชีที่มีลักษณะการซื้อหุ้นแบบไม่ต้องใช้เงินทุนของตัวเองเต็มจำนวน สามารถกู้ยืมเงินของโบรกเกอร์เพื่อเอามาซื้อหุ้นได้บางส่วน เช่น เราจะซื้อหุ้นราคา 10,000 บาท เราลงทุนจริง 5,000 บาท และกู้ยืมโบรกเกอร์มาอีก 5,000 บาท แต่บัญชีประเภทนี้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยที่เรายืมมาจากโบรกเกอร์ แต่ก็มีข้อดีคือ เราสามารถซื้อหุ้นได้มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินมาก บัญชีประเภทนี้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ มีความรู้ ความเข้าใจในการเทรดหุ้นเป็นอย่างดี

  1. โหลดโปรมแกรมสำหรับใช้ในการเทรดหุ้นและฝึกใช้เครื่องมือ

เมื่อเราเลือกบัญชีที่เหมาะกับเราได้แล้ว ต่อมาเราก็โหลดโปรแกรมที่ใช้สำหรับการเทรดหุ้นเข้ามาได้เลย เช่น Streaming, MT4 และ MT5 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งใน ios, Android และ PC ได้ รวมถึงฝึกใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่ในโปรแกรมเหล่านั้นด้วย เพื่อทำให้การเทรดเป็นไปได้ง่ายขึ้น ฝึกการอ่านกราฟ และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเทรดหุ้น

  1. ลองเทรดหุ้นในบัญชีทดลองก่อนที่จะลงเทรดในบัญชีจริง

ก่อนที่เราจะเริ่มลงทุนด้วยเงินจริงในตลาดจริงเป็นครั้งแรก แนะนำว่า ให้ทดลองเล่นในบัญชีทดลองก่อน เพื่อฝึกการเทรดเบื้อต้น เพราะหากขาดทุนหรือสูญเสีย ก็จะได้ไม่เจ็บตัว ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับมือใหม่ไปในตัว

  1. ลงเทรดในบัญชีจริงด้วยเงินทุนเริ่มต้นน้อยๆ ก่อน

เมื่อเราฝึกในบัญชีทดลองแล้ว ก็มาเริ่มเทรดในบัญชีจริงได้เลย แต่มีข้อแนะนำว่า เริ่มต้นควรลงทุนด้วยเงินทุนน้อย ๆ ก่อน เพราะหากเกิดความผิดพลาดก็จะได้ไม่ต้องสูญเสียเงินไปมาก เนื่องจากการลงทุนในตลาดหุ้นจริงย่อมมีความเสี่ยงเกิดขึ้นอยู่แล้ว

  1. เลือกหุ้นที่เหมาะกับเราและอย่าเพิ่งลงหุ้นรายตัวสำหรับมือใหม่

เลือกหุ้นที่เหมาะกับเราแล้วลงทุนในหุ้นนั้น ๆ สำหรับมือใหม่ แนะนำเป็นหุ้น SET 50 แต่จะไม่แนะนำหุ้นรายตัว เพราะมีความเสี่ยงสูง อาจจะทำให้เกิดการขาดทุนและสูญเสียอย่างหนักได้ เนื่องจากมือใหม่ยังไม่มีการวิเคราะห์หรือคาดการณ์ตลาดหุ้นที่ดีมากนัก

  1. ฝึกวิเคราะห์กลยุทธ์การเทรดหุ้น

ในช่วงแรกที่เราเริ่มต้นเทรดอาจจะต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์และคาดการณ์ตลาดหุ้น และอาจจะต้องหมั่นสังเกตความเชื่อมโยงระหว่างข่าวสารด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม กับ ราคาในตลาดหุ้นด้วย เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ในการวิเคราะห์และคาดกาณ์ราคาหุ้นสำหรับการซื้อขายให้แม่นยำมากขึ้น

  1. ศึกษาเกี่ยวกับหุ้นรายตัว

เมื่อเราเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น เริ่มวิเคราะห์และคาดการณ์ราคาหุ้นในตลาดหุ้นได้ เราก็เริ่มมาศึกษาเกี่ยวกับหุ้นรายตัวได้ ซึ่งหุ้นรายตัวจะทำให้เรามีโอกาสได้กำไรที่เพิ่มขึ้นและในบางตัวก็จะมีเงินปันผลให้เราด้วย

  1. จัดพอร์ตการลงทุนหุ้น

เมื่อเราเริ่มมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นแล้ว เราก็มาทำการพอร์ตของเราดูดีขึ้น อาจจะเลือกหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันออกไป เพื่อกระจายความเสี่ยง เมื่อเกิดปัญหาหรือเกิดการขาดทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมหนึ่ง เราจะได้เหลือหุ้นตัวอื่นที่ไม่ขาดทุนอยู่ในพอร์ตของเรา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน