วันนี้ (21 ตุลาคม 2563) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปตรวจราชการเพื่อติดตามการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร พร้อมส่งมอบโครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ (Riverbank Filtration : RBF) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งมีบ่อน้ำบาดาลขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ที่สุดถึง 60 เซนติเมตร หรือ 24 นิ้ว สามารถสูบน้ำได้ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือ 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ณ บ้านธัญญอุดม ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท โดยมีนายสมบูรณ์ ศิริเวช ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท และนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่ตำบลหาดท่าเสารอให้การต้อนรับ

จากการที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดหาน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาดทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการพิจารณาแนวทางเก็บกักน้ำฝนไว้ในทุกรูปแบบทั้งน้ำผิวดิน และน้ำใต้ดินให้มากที่สุด เพื่อรอรับฤดูแล้งหน้าที่จะมาเยือนในปีต่อไป ดังนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ (Riverbank Filtration : RBF) เพื่อนำน้ำบาดาลบริเวณใกล้แม่น้ำ ซึ่งมีปริมาณมากมาใช้ในการพัฒนาเป็นแหล่งน้ำต้นทุน และเป็นน้ำบาดาลคุณภาพดี เนื่องจากผ่านการกรองโดยธรรมชาติ สามารถนำน้ำบาดาลมาใช้และไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำผิวดิน โดยเริ่มดำเนินการในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ราชบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและกำหนดทิศทางการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำบาดาลร่วมกับน้ำผิวดินในบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายหลักของประเทศไทย

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างเป็นระบบทั่วประเทศ และเตรียมแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยเป้าหมายสำคัญคือต้องการให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความสุข โดยเฉพาะเรื่องน้ำกินน้ำใช้ ประชาชนจะต้องไม่ขาดแคลนน้ำ และมีแหล่งน้ำสนับสนุนการเกษตร เพื่อให้พร้อมรับฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง และในวันนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ และความจริงใจที่จะช่วยเหลือประชาชน ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล โดยจัดทำโครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของบ้านธัญญอุดม ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียง และจะเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมด้านการพัฒนาน้ำบาดาลของประเทศไทย เพื่อเป็นต้นแบบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเหมาะสมในพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ใกล้แม่น้ำในอนาคตได้ต่อไป

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า รูปแบบของโครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ที่บ้านธัญญอุดม ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ประกอบด้วย 1) บ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นบ่อน้ำบาดาลที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 เซนติเมตร หรือ 24 นิ้ว ความลึกประมาณ 48 เมตร สามารถสูบน้ำบาดาลได้ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่า 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน 2) หอถังเหล็กส่งน้ำระยะไกล ความสูง 40 เมตร ขนาดความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร 3) ถังกรองสนิมเหล็ก พร้อมระบบท่อกระจายน้ำ ความยาวรวม 5,800 เมตร ครอบคลุมถึง 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านประจำรัง หมู่ที่ 2 บ้านบางก้านเหลือง หมู่ที่ 3 และบ้านธัญญอุดม หมู่ที่ 6 4) ระบบผลิตน้ำดื่ม Reverse Osmosis (RO) 5) อาคารศูนย์เรียนรู้ด้านน้ำบาดาลและปรับปรุงคุณภาพน้ำ 6) จุดบริการน้ำดื่มสะอาดเพื่อประชาชนและสถานีจ่ายน้ำถาวร ซึ่งจะสามารถให้บริการประชาชนในพื้นที่ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท รวม 8 หมู่บ้าน 1,484 ครัวเรือน ประชากรกว่า 5,000 คน มีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี และสามารถนำไปประยุกต์ใช้บริหารจัดการระบบกระจายน้ำและส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ ได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีปริมาณน้ำที่สามารถพัฒนาได้กว่า 1,460 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี สามารถให้ประชาชนใช้อุปโภคบริโภคไม่น้อยกว่า 8,000 คน เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสร้างความมั่นคงด้านเกษตรกรรม ไม่น้อยกว่า 6,200 ไร่ ซึ่งในอนาคตจะดำเนินการขยายระบบท่อกระจายน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหาดท่าเสา และพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน