ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์และการรักษา ส่งผลให้การรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19 เป็นไปได้รวดเร็วกว่าที่คิด เรียกได้ว่า ‘ในร้ายก็มีเรื่องดี’ ล่าสุดทีมนักวิจัยจากคณะแพทย์ศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) นำโดยนายแพทย์อนวัช เสริมสวรรค์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อีกท่านหนึ่งคือ ดร.เกรียงศักดิ์ ขาวเนียม นักวิจัยพัฒนานวัตกรรมสำหรับสุขภาพ ได้สร้างนวัตกรรมสมุนไพรไทยเพื่อเสริมภูมิต้านเชื้อไวรัส COVID-19 ได้สำเร็จ

นายแพทย์อนวัช เผยถึงภาพรวมของสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ว่า ความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยระลอกใหม่นั้นมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อ COVID-19 นั้นอาจจะสูงเทียบเท่ากับประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากการตรวจคัดกรองและมาตรการการป้องกันไปประเทศไทยยังไม่ไปถึงจุดสูงสุด ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์จะยาวนานและรุนแรงขนาดไหน หากอัตราการติดเชื้ออยู่ในจุดที่คงตัวนั่นคือจุดสูงสุดของสถานการณ์ครั้งนี้ คือต้องไม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นขั้นบันได ณ ตอนนี้บอกต้องเลยว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ส่งผลให้หลายคนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ทางคณะแพทยศาสตร์ สจล. ได้สร้างนวัตกรรมโดยใช้สมุนไพรไทยเพื่อเสริมภูมิต้านเชื้อไวรัส COVID-19 ได้สำเร็จ เรียกว่า ‘แอนตาเวียร์’

ดร.เกรียงศักดิ์ เผยว่า โรคระบาดหรือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะหายไปได้ประชาชนต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ภูมิคุ้มกันหมู่’ ซึ่งสามารถทำได้หลายทาง หนึ่งในนั้นคือ การใช้วัคซีนเพื่อการเพิ่มภูมิคุ้มกัน แต่เนื่องจากการนำเข้าวัคซีนในประเทศไทยล็อตแรกจะนำเข้ามาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งมีเพียง 2 แสนโดสเท่านั้น และเป็นการใช้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นอันดับแรก เราจึงต้องดูแลสุขภาพของตัวเองก่อน ทีมวิจัยจึงมีแนวคิดที่จะต่อยอดองค์ความรู้ ‘สมุนไพรไทย’ มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมตำรับใหม่ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมภูมิต้านทานเชื้อไวรัส COVID-19 ‘แอนตาเวียร์’ นวัตกรรมสมุนไพรไทยเสริมภูมิต้านทาน COVID-19 มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อฝ่าวิกฤตสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่เราต่างเผชิญกันอยู่

โดยโครงการศึกษาวิจัยได้ทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสมุนไพรไทย อาทิ ขมิ้น และพลูคาว มาเป็นเวลากว่า5 ปี จนค้นพบว่า สารสกัดจากสมุนไพรดังกล่าวสามารถหยุดยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัสได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการรักษาไข้หวัด โดยเฉพาะไข้หวัดที่มีความรุนแรง เช่น COVID-19 เนื่องจากสารสกัดจากสารสกัดที่สำคัญจากสมุนไพรที่เลือกใช้ดังกล่าว มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส สารสกัดเบต้ากลูแคนจากยีสต์ และสารสกัดเห็ดหลินจือและถั่งเช่า ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และสารสกัดขมิ้น กระชายขาว ยังช่วยยับยั้งการเกิดพายุไซโตไคน์ที่เป็นสาเหตุสำคัญนำไปสู่ภาวะการหายใจล้มเหลวอีกด้วย อีกทั้งเทคโนโลยีการสกัดและรักษาการคงตัวของสารออกฤทธิ์ที่สำคัญได้รับการรับรองอนุสิทธิบัตรมานานกว่า3 ปี นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้กับคนไทย ซึ่งทางผู้บริหารของ สจล. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ วช. ไปเป็นที่เรียบร้อยในปี 2561

กลุ่มเป้าหมายที่จำเป็นในการรับประทาน ‘แอนตาเวียร์’ คือใคร

กลุ่มเป้าหมายในการรับประทานแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงจากโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน โรคไต โรคทางเดินหายใจ เป็นต้น อีกกลุ่มหนึ่งคือบุคลาการทางการแพทย์ที่อยู่หน้าด่าน หรือคนที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หรือพูดอีกแง่หนึ่งว่า ‘ใครที่กลัวติดเชื้อไวรัส COVID-19 นั่นคือกลุ่มเป้าหมาย’ โดยแอนตาเวียร์หรือนวัตกรรมสมุนไพรไทยต้าน COVID-19 ได้รับการพัฒนาในรูปแบบซอฟเจลร่วมกับแคปซูลปกติ ด้วยเทคโนโลยีกระบวนการสกัดสมัยใหม่ และเทคโนโลยีห่อหุ้มสารสำคัญ เพื่อเพิ่มการดูดซึมของสารออกฤทธิ์ เพิ่มความเสถียรของสาระสำคัญ ไม่ให้ถูกทำลายโดยออกซิเจน อีกทั้งเป็นสูตรตำรับที่พัฒนาจากสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองในการยับยั้งเชื้อไวรัสโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นสารสกัดจากสมุนไพรไทย 100% มาจากแหล่งผลิตที่มีมาตรฐานผ่าน GMP มีความปลอดภัยสูง จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย ทุกเพศ ทุกวัย สามารถรับประทานได้

ดร.เกรียงศักดิ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากใครมีความกังวลเรื่องไข้หวัด หรือไวรัส และสนใจในนวัตกรรมจากสมุนไพรต้าน COVID-19 อย่างแอนตาเวียร์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาเรื่องจากดูแลตนเองได้ที่ Line : @medigreen

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน