อธิบดีบกรมชลประทาน ยืนยันทำนบดินปิดกั้นน้ำเค็มชั่วคราวบริเวณสถานีสูบน้ำท่าถั่ว จังหวัดฉะเชิงเทรา มีความมั่นคงแข็งแรง ก่อนจะสร้างความมั่นใจเพิ่ม ด้วยการสร้างทำนบกึ่งถาวรโครงสร้างเหล็กทดแทนทำนบดินชั่วคราว ตามนโยบายของ
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีเหตุการณ์ทำนบบ่อก่อสร้างของงานจ้างเหมาก่อสร้างสถานีสูบน้ำท่าถั่ว ต.บางกรูด อ.ท่าโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา พังทลาย เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา ทำให้น้ำเค็มจากแม่น้ำบางปะกงไหลทะลักเข้าคลองประเวศบุรีรมย์ และคลองสาขา ส่งผลกระทบต่อ สัตว์น้ำ พืช รวมถึงน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปานั้น
กรมชลประทาน ได้เร่งแก้ไขปัญหาตามลำดับ ดังนี้
1. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน หลังเกิดเหตุการณ์ทำนบบ่อก่อสร้างพังทลายเวลาประมาณ 19.30 น.( 9 เม.ย. 67) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ได้ควบคุมน้ำเค็มให้อยู่ในวงจำกัด ด้วยการปิดประตูระบายน้ำกลางคลองประเวศบุรีรมย์ ในเขตตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ (ห่างจากจุดทำนบดินทรุดตัวประมาณ 15กิโลเมตร) เพื่อสกัดกั้นน้ำเค็มไม่ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่ด้านใน พร้อมกันนี้ ยังได้ปิดกั้นคลองสาขาที่เชื่อมต่อกับคลองประเวศบุรีรมย์ ได้แก่ ปิดประตูระบายน้ำกลางคลองอุดมชลจร ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และประตูระบายน้ำคลองจระเข้น้อย ตำบลเกาะไร่ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมไปถึงทำนบดินชั่วคราวในคลองที่มีอยู่แล้ว อาทิ คลองแขวงกลั่นบน ตำบลบางเตย คลองบางกะไห ตำบลบางกะไห และคลองลัดยายหรั่ง ตำบลคลองประเวศ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
2. การควบคุมสถานการณ์ และแก้ไขผลกระทบ แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้
2.1 เร่งก่อสร้างทำนบดินชั่วคราวปิดกั้นน้ำเค็ม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มไหลเข้าคลองประเวศบุรีรมย์ ปัจจุบันดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยืนยันทำนบดินมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถป้องกันน้ำเค็มได้เป็นอย่างดี จากนั้นในวันที่ 17 เมษายน 2567 จะเริ่มก่อสร้างทำนบกึ่งถาวร (โครงสร้างเหล็ก) ทดแทนทำนบดินชั่วคราว คาดว่าจะแล้วเสร็จวันที่ 30 เมษายน 2567 หากแล้วเสร็จ จะป้องกันปัญหาน้ำเค็มไหลย้อนเข้าคลองได้อย่างถาวร
Advertisement
2.2 สูบน้ำเค็มที่ปะปนกับน้ำจืดในคลองกลับสู่แม่น้ำบางปะกง ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำในจุดต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำเค็มออกให้เร็วที่สุด
2.3 เพิ่มการระบายน้ำจืดจากบึงฝรั่ง จาก 3 ลบ.ม./วินาที เป็น 10 ลบ.ม./วินาที และทยอยเพิ่มเป็น 15 ลบ.ม./วินาที เพื่อเจือจางค่าความเค็มต่อไป
2.4 กรมชลประทาน ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำประปา ช่วยเหลือพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากระบบประปาหมู่บ้านไม่สามารถสูบน้ำจากคลองขวาง-เปร็ง มาผลิตทำน้ำประปาได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (14เม.ย.67) รวม 27 เที่ยว ปริมาตรน้ำ 162,000 ลิตร ช่วยเหลือพื้นที่หมู่ 2 5 6 7 8 ตำบลคลองเปร็ง และหมู่ 2 ตำบลหนามแดง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต เป็นศูนย์รับเรื่องความต้องการช่วยเหลือจากผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าน้ำเค็มจะไม่ไหลเข้าซ้ำเติมในคลองประเวศบุรีรมย์และพื้นที่ชั้นในได้อีกและจะเร่งระบายน้ำเค็มคืนน้ำจืดให้ประชาชนโดยเร็วที่สุดต่อไป
