เมื่อ 3 ส.ค. เอเอฟพีรายงานว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ เปิดเผยการเก็บข้อมูลสถิติผู้พิการตาบอดทั่วโลกมีประมาณ 36 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เป็น 115 ล้านคน ภายในปีค.ศ.2050 หรือพ.ศ. 2593 ตามอายุของประชากรที่สูงวัยขึ้น หากบรรดารัฐบาลทั่วโลกยังไม่เพิ่มงบประมาณด้านการค้นคว้าและการรักษา

งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสารแลนเซ็ต โกลบอล เฮลธ์ ระบุว่าใช้ฐานข้อมูล 188 ประเทศ ตั้งแต่ปี 1990 (พ.ศ.2533) พบอัตราผู้พิการทางสายตา ร้อยละ 0.75 กระทั่งมาถึงปี 2015 (พ.ศ.2558) เพิ่มเป็นร้อยละ 0.48 สาเหตุหลักของการตาบอดนั้นมาจากโรคชรา โดยพื้นที่ที่มีความหนาแน่นผู้พิการดวงตามากที่สุดอยู่ที่เอเชียใต้กับแอฟริกากลาง

นายรูเพิร์ต บอร์น ผู้เขียนงานวิจัย จากมหาวิทยาลัยแองเกลีย รัสกิน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า จะเห็นได้ชัดว่า หากมีการใช้ระบบสาธารณสุขที่ก้าวหน้า เช่น การผ่าตัดต้อ เข้าไปจัดการ จะช่วยลดจำนวนผู้ตาบอดได้มาก แต่ความที่ประชากรเพิ่มขึ้น และมีกลุ่มผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น จึงกลายเป็๋นปัญหามากขึ้น

นายบอร์นกล่าวในตอนท้าย ว่ารัฐควรลงทุนด้านการรักษา ปรับปรุงคุณภาพชีวิต และเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจขณะที่ประชากรยังอยู่ในช่วงทำงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน