น.ส.บุปผา พงศ์ชนะ หรือน้องฝน นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนสทิงพระวิทยา ดีใจที่ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สุดปลาบปลื้มที่ทรงช่วยเหลือเมื่อ16 ปีตอนอายุได้ 6 เดือนจากการถูกไฟลวก และมีการแชร์กันในสังคมออนไลน์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เผยทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้าเฝ้าฯ และกราบพระบาทสักครั้งในชีวิตที่ทรงชุบชีวิตและทรงสัญญาจะให้ทุนการศึกษาหากสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้

 

201612041758147-20041020085649

หลังจากที่ในสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่30 พ.ย. ที่ผ่านมา ระหว่างที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปทรงเปิดการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยครั้งที่ 42 และมีการจัดนิทรรศการโครงงานวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ได้รับรางวัลชนะเลิศมานำเสนอผลงานให้รงทอดพระเนตร

201612041758141-20041020085649

และเมื่อมาถึงบูธนิทรรศการของโรงเรียนสทิงพระวิทยา น.ส.บุปผา พงศ์ชนะ อายุ 18 ปีหรือน้องฝน นักเรียนชั้นม.6 ของโรงเรียนสทิงพระวิทยา ได้รับรางวัลชนะเลิศและเป็นผู้ถวายรายงาน พร้อมกับได้นำเอกสารคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์กราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่าเธอคือคนไข้ในพระราชานุเคราะห์เมื่อ16 ปีก่อนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้ช่วยเหลือเอาไว้ จากการถูกน้ำมันตะเกียงไฟลวกใบหน้าและลำตัวเมื่ออายุได้6 เดือน และได้ก้มลงไปกราบพระบาทด้วยน้ำตานองหน้าด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ล่าสุดในวันนี้ผู้สื่อข่าวที่จ.สงขลา ได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องราวชีวิตของน้องน้ำฝนที่บ้านพักเลขที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งพบว่าสภาพครอบครัวของน้องน้ำฝนค่อนข้างลำบากไม่มีบ้านเป็นของตัวเองต้องอาศัยอยู่ในบ้านเช่าสภาพเก่ามุงด้วยสังกะสีต้องเสียค่าเช่าเดือนละ 500 บาท และอาศัยรวมกัน 4 ชีวิต ทั้งตัวเธอเอง และ นายประวิทย์ พงศ์ชนะ อายุ 56 ปี พ่อซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ทำงานไม่ได้ นางกาญจนา พงศ์ชนะ อายุ 56 ปี แม่ และหลานสาววัย 5 ขวบ อีก1 คน และครอบครัวมีรายได้วันละไม่เกิน300 บาทจากแม่ซึ่งมีอาชีพทำงานก่อสร้าง

201612041758142-20041020085649

น้องฝนเล่าเหตุการณ์ก่อนที่จะได้พบกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่าตั้งใจที่จะทำโครงงานให้ได้รับรางวัลชนะเลิศเพื่อที่จะได้พบกับพระองค์ท่านเพราะทราบว่าพระองค์จะเสด็จมาในงานนี้เพื่อขอบคุณที่ได้ให้การช่วยเหลือรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์จากการถูกไฟน้ำมันตะเกียงลวกเมื่ออายุ 6 เดือน และเมื่ออายุ 2 ขวบแม่ได้พาไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีขณะเสด็จฯ มาจ.สงขลาและทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งแม่บอกเสมอว่าพระองค์มีบุญคุณกับครอบครัวเธอมากจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้มุ่งมั่นตั้งใจเรียนและไม่อายที่จะถูกเพื่อนล้อและตั้งใจที่จะพบพระองค์ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อเข้าเฝ้าฯ กราบพระบาทด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งได้ทำสำเร็จแล้วและความตั้งใจอีกอย่างคือจะสอบให้ได้ตามที่พระองค์ได้บอกไว้ว่าจะส่งเสียให้เรียน

201612041758143-20041020085649

น้องฝนบอกว่า ระหว่างที่เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ได้ถามถึงครอบครัวและเมื่อทราบว่าพ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์พระองค์ตรัสว่า “ต้องรับรักษาทั้งพ่อทั้งลูกหรือไม่” รวมทั้งถามเรื่องการเรียนซึ่งตนบอกว่ากำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีตรัสว่าถ้าสอบได้จะมอบทุนให้เรียนจนจบ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

201612041758145-20041020085649

น้องฝน เล่าว่า ตอนนี้กำลังรอผลสอบของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่จะประกาศผลในกลางเดือนนี้โดยตั้งใจจะศึกษาในคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ความฝันอยากเป็นครูเคมี จึงพยายามตั้งใจเรียนมาตลอดและมีเกรดเฉลี่ยสูงสุด 3.79 โดยเขียนคติประจำใจติดไว้ข้างฝาในห้องนอนเช่น “พึ่งตนเองให้มากอย่างได้หวังพึ่งสถานบันกวดวิชาแพงๆ พึ่งตนเองอ่านเองยืนด้วยของของตัวเอง” หรือ “คนที่มุ่งมั่นจริงไม่ต้องรอวันพรุ่งนี้” และ “ติวตัวเองที่บ้านทั้งสบายประหยัดติวตอนไหนก็ได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม” ซึ่งผลจากความมุ่งมั่นนอกจากจะได้รับรางวัลชนะเลิศโครงงานวิทยาศาสตร์ในครั้งนี้แล้วเคยยังเคยได้รับรางวัลอันดับ3 ผู้นำการอ่านระดับประเทศ รวมทั้งรางวัลเยาวชนดีเด่นของจ.สงขลา ในปีนี้ด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือน้องฝนและครอบครัวติดต่อโดยตรงที่น้องฝนหรือผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสทิงพระ หมายเลขบัญชี 923-0-35229-2 น.ส.บุปผา พงศ์ชนะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน