วันที่ 20 ธ.ค. หลังเหตุการณ์จ่อยิงนายอันเดรย์ คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ขณะกำลังกล่าวสุนทรพจน์เปิดนิทรรศการภาพถ่าย ที่กรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี ชาวโลกได้เห็นภาพคนร้ายในชุดสูทที่ใช้อาวุธปืนยิงทูต และยังถือปืนพร้อมตะโกนถึงความคับแค้นในใจ ภาพทั้งหมดบันทึกไว้ได้โดยช่างภาพที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
นายบูร์ฮัน ออซบิลิซี ช่างภาพของเอพี เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันนั้นตนตัดสินใจไปร่วมในนิทรรศการโดยไม่ได้คิดมากนัก เพราะสถานที่จัดงานอยู่ระหว่างบ้านกับที่ทำงาน
“เมื่อผมไปถึง เริ่มมีการกล่าวสุนทรพจน์ไปแล้ว ตอนที่ท่านทูตรัสเซียเริ่มพูด ผมขยับเข้าไปใกล้เพื่อจะถ่ายรูปท่าน คิดว่ารูปพวกนี้น่าจะเป็นประโยชน์เกียวกับเรื่องราวของความสัมพันธ์ตุรกี-รัสเซีย”
“ท่านทูตพูดอย่างนุ่มนวล และ-จากที่ผมบอกได้ ท่านพูดอย่างน่ารักเกี่ยวกับบ้านเกิดของท่าน หยุดเป็นครั้งคราวเพื่อให้ล่ามแปลคำพูดของท่านเป็นภาษาตุรกี ผมจำได้ว่าผมกำลังนึกเกี่ยวกับความสงบและถ่อมตนที่ท่านแสดงออก”
“จากนั้น มือปืนก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว และเริ่มทำให้ผู้ชมหวาดกลัว ร่างของท่านทูตนอนอยู่ที่พื้น แค่ไม่กี่เมตรจากตัวผม ผมมองไม่เห็นเลือดรอบๆท่าน ผมคิดว่าท่านถูกยิงจากด้านหลัง”
ช่างภาพเอพี กล่าวด้วยว่า “ผมใช้เวลาสองสามวินาทีถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ชายคนหนึ่งตายตรงหน้าผม ชีวิตหายไปต่อหน้าต่อตาผม”
“ผมขยับไปข้างหลังและทางซ้ายมือ ขณะที่มือปืนกำลังชี้ปืนไปที่ผู้คนที่กำลังตื่นกลัวอยู่ทางขวาของห้อง ตอนแรกผมคิดไม่ออกว่าอะไรคือแรงจูงใจของคนร้าย ผมคิดว่าเขาอาจเป็นทหารเชเชน แต่คนอื่นบอกทีหลังว่าเขาตะโกนเกี่ยวกับเมืองอเลปโปในซีเรีย”
“แน่นอนว่าผมกลัว ผมรู้ถึงความอันตรายหากมือปืนตรงมาทางผม แต่ผมขยับออกไปอีกนิดหนึ่ง และถ่ายภาพของผู้ชายคนนั้น ขณะที่เขากำลังข่มขู่ผู้คนที่กำลังสิ้นหวัง”
“นี่คือสิ่งที่ผมคิด ผมอยู่ที่นี่ แม้ว่าผมจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่า ผมเป็นนักข่าว ผมต้องทำงานของผม ผมสามารถวิ่งหนีไปได้โดยไม่ได้ถ่ายสักภาพ แต่ผมคงไม่มีคำตอบที่ดีพอ หากผู้คนถามผมในภายหลังว่า ทำไมคุณไม่ถ่ายภาพออกมา”
นายออซบิลิซียังกล่าวด้วยว่า ตอนนั้นยังคิดถึงเพื่อนร่วมงาน ที่เสียชีวิตขณะกำลังถ่ายภาพในพื้นที่ความขัดแย้งในหลายปีที่ผ่านมา
“จากนั้นไม่รถพยาบาลและรถหุ้มเกราะถึงที่เกิดเหจุ ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มขึ้น ก่อนที่คนร้ายจะถูกวิสามัญฯ”
“ตอนที่ผมกลับสำนักงานเพื่อดูภาพ ผมช็อกเมื่อเห็นภาพมือปืนยืนอยู่ข้างหลังท่านทูตขณะที่ท่านกำลังพูด เหมือนเป็นเพื่อน เป็นบอดีการ์ด”