พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดโครงการ “ฝากบ้านกับตำรวจ” ช่วงเทศกาลปีใหม่พร้อมกันทั่วประเทศ เผยนำแอพพลิเคชั่นไลน์มาใช้ เพื่อติดต่อกับเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีกล้องซีซีทีวีที่สามารถต่ออินเตอร์เน็ตได้ จะสามารถเปิดดูภาพได้ตลอด 24 ช.ม. หากพบความผิดปกติสามารถแจ้ง ตร.ได้ทันที ขณะที่นักร้องดัง ไมค์ ภิรมย์พร ร่วมฝากบ้านเป็นครั้งที่ 5 ชี้เป็นโครงการที่ดี อยากให้มีไปเรื่อยๆ ขณะที่หลายจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ เชียงใหม่ห้ามรถบัสวิ่งขึ้นดอย คุมเข้มความเร็ว พร้อมตั้งด่าน 6 เส้นทางหลักเข้าสู่ตัวเมือง โคราชระดมกำลังร่วม 5 พันนาย พร้อมอำนวยการจราจรเส้นทางสู่อีสาน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. นาย พุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดเป้าหมายให้ประชาชนและนัก ท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเทศกาลปีใหม่เดินทางสัญจรอย่างปลอดภัย ให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิตลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเชียงใหม่มีตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุและ ผู้บาดเจ็บสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และมีผู้เสียชีวิตอยู่ในอันดับที่ 16 ของประเทศ โดยได้เร่งรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ในช่วงก่อนการเฝ้าระวัง ระหว่างวันที่ 15-28 ธ.ค. 2559 ส่วนช่วงควบคุมเข้มข้นเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2559-4 ม.ค. 2560 สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มงวดและจริงจัง

“ในระดับชุมชนหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนทั้งท้องที่ ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกบ้าน ผมได้กำชับไปทางนายอำเภอทุกอำเภอ ถ้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน พื้นที่ใดประสบอุบัติเหตุในห้วงปีใหม่ ที่สาเหตุมาจากความมึนเมา ดื่มสุรา ให้นายอำเภอรายงานมาที่ผมโดยตรง เพราะเป็นผู้นำต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เมาไม่ขับ สวมหมวกกันน็อก โดยจะให้ปกครองจังหวัดทำหนังสือข้อสั่งการลงไปให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดรวมถึงมาตรการที่จะช่วยสนับสนุนทุกฝ่ายในการป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่” นายพุฒิพงศ์กล่าว

รอง ผวจ.เชียงใหม่กล่าวอีกว่า ในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังจะเข้มงวดกับผู้ที่อยู่ระหว่างฟ้องดำเนินคดีในข้อหารับรถเร็วเกินกำหนด เมาสุรา ทั้งที่อยู่ระหว่างถูกคุมความประพฤติ โดยสำนักคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,500 ราย และ ผู้ที่เคยถูกศาลสั่งปรับไปแล้ว โดยส่งหนังสือแจ้งเตือนไปที่บ้าน หากกระทำผิดซ้ำอีกจะไม่รอลงอาญา และขอความกรุณาจากอัยการเสนอให้ศาลพิจารณาโทษสูงสุด เพื่อให้เข็ดหลาบในการใช้ความเร็ว เพราะปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ถือว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวเชียงใหม่ล้วนต้องการความปลอดภัย

นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้า ปภ. เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการประชุมเตรียมความพร้อมของหน่วยงานทหาร ที่ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมหารือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้มีการตั้งด่านพิเศษเพื่อชะลอความเร็วของรถ 6 ด่าน บริเวณทางเข้าสู่ จ.เชียงใหม่ ที่ อ.แม่ริม พร้าว ดอยสะเก็ด สันกำแพง ดอยหล่อ และถนนจากลำปางมาเชียงใหม่ และจะพิจารณานำคำสั่ง คสช.ที่ 46/2558 ที่ให้สามารถยึดรถเมาแล้วขับได้ 7 วัน กลับมาใช้อีกในปีนี้

ในส่วนของตำรวจจะได้มีการออกประกาศเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดระยะเวลาขึ้น และลงของรถโดยสารขนาดใหญ่ และรถบัส 2 ชั้น ห้ามขึ้นดอยเป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย ดอยสุเทพ ห้ามขึ้นเป็นเวลา ส่วนดอยอ่างขาง ดอยคำ และดอย อินทนนท์ ห้ามขึ้นตลอด ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2559-4 ม.ค. 2560 ขณะเดียวกันสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่จัดรถโมบายออก ไปสุ่มตรวจจับความเร็วรถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่ตามพ.ร.บ.จราจร

นอกจากนี้ ในจุดเสี่ยงเส้นทางหลวง 118 (ดอยนางแก้ว-ดอยสะเก็ด) ตามแผนจะติดตั้งกล้องจับความเร็วอัตโนมัติ ทั้งหมด 5 จุด ตอนนี้ดำเนินการไปแล้ว 3 จุด และยังมีจุดอื่นที่ตำรวจทางหลวงใช้รถโมบายเคลื่อนที่สุ่มตรวจเป็นระยะๆ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ตั้งเป้าหมายลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างน้อยไม่เกินอันดับที่ 20 เพื่อหนีการเป็นแชมป์ด้านการเกิดอุบัติเหตุของประเทศจากปีที่ผ่านมา

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสน่ห์ ซองดี ผู้ใหญ่บ้านบ้านปงถ้ำ ต.วังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง นำชาวบ้านจัดระเบียบทางขึ้นดอยหลวง (ดอยหนอก) โดยประกาศเป็นธรรมนูญหมู่บ้าน สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นดอยหลวง (ดอยหนอก) ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและกติกาที่ชุมชนตั้งไว้ หลังจากที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปเที่ยวบนดอยหลวงผ่านหมู่บ้านและชุมชนเกิดปัญหาตามมา เช่น การเดินหลงป่า การเข้าไปทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนทิ้งขยะจนสกปรกทำให้ธรรมชาติเสียหาย

ด้าน พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รรท.ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการดูแลการจราจรให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 3,000 นายร่วมกับเจ้าหน้าที่ อปพร.อีกกว่า 2,000 คน ลงพื้นที่ประจำจุดบริการตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2559 – 4 ม.ค.2560 ครอบคลุมทั้งเส้นทางหลักและทางรอง โดยเตรียมปิดจุดกลับรถและเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อระบายปริมาณรถหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณ ต.กลางดง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี, มอปลาย่าง อ.สีคิ้ว, บายพาส อ.สีคิ้ว, สะพานต่างระดับสามแยกปักธงชัย, ถนนมิตรภาพสายบายพาสเลี่ยงตัวเมืองนครราชสีมา, ทางต่างระดับ ต.จอหอ, แยกบ้านวัด, ซึ่งจุดดังกล่าวนั้นหากพบว่ามีปริมาณรถที่ติดสะสมมากจะเร่งเปิดช่องทางพิเศษเพื่อระบายรถให้สามารถวิ่งได้คล่องตัว

ขณะที่บริเวณถนนเส้น 304 ปากทางเข้าประตูมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นคร ราชสีมา ซึ่งเป็นจุดที่กำลังก่อสร้างขยายพื้นผิวจราจร คนงานเริ่มเก็บเครื่องจักรและเครื่องมือก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างสะดวกในช่วงเทศกาลวันปีใหม่

น.ส.รัตติยา ฤกษ์จำนงค์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดสิงห์บุรี เตือนก่อนออกเดินทางทุกครั้งควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน และวันหมดอายุประกันภัยพ.ร.บ. ซึ่งปัจจุบันมี “ประกันภัยอุบัติเหตุเทศกาลสุขใจ” มีเบี้ยประกันภัยราคาถูกเพียง 100 บาทต่อปี ความคุ้มครองสูงสุด 1 แสนบาท มีเงื่อนไขไม่ซับซ้อน และหาซื้อได้ง่าย หรือจะเป็น “ประกันอุบัติเหตุเดินทางอุ่นใจ” ที่มีแผนความคุ้มครองที่เลือกระยะเวลาการเดินทางได้ เช่น มีตั้งแต่ 1 วัน 3 วัน 5 วัน 7 วัน 10 วัน หรือ 14 วัน ซึ่งประชาชนสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ โดยประชาชนสามารถโทร.สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186

ส่วนที่บึงศรีภู เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ สมาคมชาวเหนือ-อีสาน จ.สงขลา จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ กิจกรรมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล มีนายทวีวุฒิ สังข์ศิริ นายอำเภอหาดใหญ่ นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรี ทน.หาดใหญ่ ชาวเหนือและชาวอีสานที่มาประกอบอาชีพอยู่ใน อ.หาดใหญ่ และอำเภอใกล้เคียงใน จ.สงขลา ซึ่งบางคนไม่มีโอกาสได้เดินทางกลับบ้านเกิด เข้าร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 54 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นการทำบุญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ขณะที่วันเดียวกัน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา รรท.ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รรท.ผบก.สท. พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วิรัชรมงคล รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชัยพร จุณณวัตต์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ. สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส. ร่วมเปิดโครงการประชารัฐร่วมใจฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนฝากบ้านไว้กับตำรวจมากที่สุด โดยจุดแรกได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบ้านนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ไมค์ ภิรมย์พร หรือ นายพรภิรมย์ พินทะปะกัง อายุ 50 ปี ภายในหมู่บ้านเอกสิน ซอยนาคนิวาส 46 แขวงเขตลาดพร้าว กทม. จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมยังจุดที่ 2 หมู่บ้านอมรพันธ์ุ 9 แขวงเขตลาดพร้าว กทม.

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า โครงการประชารัฐร่วมใจฝากบ้านกับตำรวจนั้น เป็นนโยบายของทางรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้มีการป้องปรามเหตุอาชญากรรมและยังเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจและประชาชน ช่วยกันดูแลทรัพย์สินของประชาชน โดยจะขอความร่วมมือจากประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการ หากมีการติดกล้อง CCTV ซึ่งเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เจ้าของบ้านจะสามารถเปิดดูกล้องได้ 24 ชั่วโมง สำหรับบ้านใดที่มีผู้ป่วย ทุพพลภาพ คนชรา สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ได้เช่นกัน แต่ต้องแจ้งรายละเอียดให้ชัดเจนด้วย โดยย้ำว่าข้อมูลของผู้ฝากบ้านจะเป็นความลับ

นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งด่านตรวจสกัดอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ด้วย เพื่อสะดวกต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ และยังมีการนำแอพพลิเคชั่นไลน์และเฟซบุ๊กเข้ามาช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของบ้านและผู้ที่ช่วยเฝ้าระวัง เพราะนอกจากโครงการฝากบ้านกับตำรวจยังมีสายตรวจที่คอยตรวจตราได้รอบหมู่บ้าน มีโครงการเพื่อนบ้านเตือนภัย โดยเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ไปเที่ยวในช่วงเทศกาลจะช่วยเฝ้าระวังอีกแรง ถือเป็นการร่วมมือกันอย่างแท้จริง ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมาพบว่าทั่วประเทศมีผู้ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 5,000 หลัง ในนครบาลมี 1,700 หลัง ในพื้นที่ สน.โชคชัย ประมาณ 140 หลัง และในอนาคตเชื่อว่าจะมีผู้ที่เข้าร่วมโครงการมากขึ้น

ขณะที่นักร้องดัง ไมค์ ภิรมย์พร เผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้วเคยถูกโจรงัดบ้าน เป็นวันธรรมดาไม่ใช่ช่วงเทศกาล ตัวเองออกไปทำงานภรรยาออกไปทำบุญ โจรปีนเข้ามาด้านหลังบ้านกลางวันแสกๆ ขโมยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 5 แสนบาท และจับกุมคนร้ายไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้ติดตั้งกล้อง CCTV หลังจากนั้นเป็นต้นมา จึงต้องเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น โดยติดตั้งกล้อง CCTV จำนวน 4 ตัว ทั่วบริเวณบ้าน

ไมค์เผยต่อว่า เข้าร่วมโครงการฝากบ้านมาแล้ว 4 ครั้ง และรู้สึกว่าเป็นโครงการที่ดี สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนเพราะจะมี เจ้าหน้าที่คอยวนมาตรวจตราและรายงานสถานการณ์อยู่ตลอด เชื่อว่าเป็นโครงการที่ได้เป็นประโยชน์และอยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ และอยากให้ประชาชนฝากบ้านไว้กับตำรวจ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโครงการฝากบ้านในตจว. เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รักษาการ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่มอบป้ายประชา สัมพันธ์โครงการ “ฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2560” ในเขตพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น ในชุมชนวัดวุฒาราม เขตเทศบาลนครขอนแกน โดยมีประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต.จตุพลกล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2559-3 ม.ค.2560 ในปีที่ผ่านมาขอนแก่นมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฝากบ้านกว่า 400 หลังคาเรือน โดยประชาชนยังสมัครเข้าร่วมโครงการได้ โดยขอรับใบสมัครและสมัครที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน ขณะเดียวกันนอกจากโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจแล้วยังคงมีการประสานงานในเรื่องของเพื่อนบ้านเตือนภัย เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประสิทธิภาพและสามารถที่จะเข้าระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว

ด้าน พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รรท.ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พร้อม พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมจัดกิจกรรมเปิดโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจโคราช เพื่อดูแลความปลอดภัยตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบ้านที่เข้าโครงการ โดยในปีนี้มีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการฝากบ้านแล้วมากกว่า 100 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าทุกปี แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความไว้วางใจในโครงการดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ส่วนที่ตลาดศรีนคร ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พ.ต.อ.สุกฤษฎิ์ บุญทรง รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ตรวจติดตามโครงการฝากบ้านกับตำรวจ ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ เริ่มตั้งแต่ 25 ธ.ค.2559 ถึงวันที่ 3 ม.ค.2560 โดยประชาชนสามารถเข้าร่วมโครงการได้หลายช่องทาง เช่น โทรศัพท์ 191 หรือ 0-5688-1567 หรือ 08-9670-6595 หรือติดต่อด้วยตนเองที่ งานป้องกันปราบปราม ชั้น 3 สภ.เมืองนครสวรรค์ ทั้งนี้ปีที่แล้วมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 400 ราย และผลการดำเนินงาน ไม่มีบ้านในโครงการถูกลักทรัพย์สินแม้แต่หลังเดียว

ด้าน พ.ต.อ.อรรถชัย ศังขวณิช รอง ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ เชิญชวนประชาชนในจังหวัด เข้าร่วมโครงการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องเดินทางมายื่นคำร้องที่สถานีตำรวจ เพียงโทรศัพท์แจ้งจุดที่อยู่บ้านพัก สำนักงานตั้งอยู่ให้แน่ชัด หรือแจ้งต่อตำรวจสายตรวจที่ขี่จักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้าน ก็สามารถร่วมโครงการให้ตำรวจดูแลได้ทันที โดยปีนี้ทุกสถานีตำรวจจะมีการเก็บข้อมูล พร้อมใช้โปรแกรมแช็ตไลน์ เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจดูแลความปลอดภัยและลงพื้นที่ และติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับเจ้าของบ้านโดยส่งภาพผ่านไลน์

ขณะที่ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รรท.ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เปิดโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ บริเวณภายในโครงการหมู่บ้านเซ็นทรัลปาร์คฮิลล์ไซด์ ซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน ม.8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนเผยว่าได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตรวจตราและรักษาทรัพย์สินของชาวบ้าน ทั้งผู้ที่เข้าร่วมโครงการและบ้านทั่วไปให้เหมือนกัน

ด้านนายแพทย์ปัญญาฤทธิ์ กิติวรรณประสาร นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลแหลมฉบัง เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี ที่สามารถจะสร้างความอุ่นใจให้กับเจ้าของบ้านที่ต้องเดินทางและทิ้งบ้านไว้หลายวัน รวมทั้งแอพฯ ไลน์ที่นำมาใช้ซึ่งหากพบความผิดปกติก็สามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน