นัด 51 นศ.มอบตัว โกงสอบนายสิบ

สน.พหลโยธินตั้งโต๊ะรอ 51 มือปืนรับจ้างยิงข้อสอบ รับทราบข้อกล่าวหาคดีโกงข้อสอบ นักเรียนนายสิบสังกัดบช.น.วันเสาร์-อาทิตย์นี้ หัวหน้าพนักงานสอบสวนระบุได้ประสานกับสถาบันการศึกษาต้นสังกัดของบรรดานักศึกษาเหล่านั้นแล้ว ขณะที่ผบช.น.ระบุจะโดนข้อหาอั้งยี่-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ส่วนผู้จ้างวานเจอข้อหาหัวหน้าอั้งยี่มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี

กรณี พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บช.น. นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ที่ทุจริตการสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ สน.พหลโยธิน โดยแจ้งความให้ดำเนินคดีนายจิระพจน์ พลายด้วง อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจ เขตปทุมวัน ซึ่งได้เดินทางพร้อมทนายเข้ามอบตัวและให้การว่าลงมือทำเพียงคนเดียว โดยรับค่าหัวละ 3-4 แสนบาท เมื่อวันที่ 10 ม.ค.นั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงศักดิ์ รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีและเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ระดมคณะพนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลในการ เตรียมสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างการเตรียมการเรื่องสถานที่ รวมถึงการจัดลำดับการเข้าให้ปากคำ ส่วนสำนวนคดีนี้ยังมีความคืบหน้าไม่มากนัก เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารจำนวนมากกว่า 13,000 ชุด ที่ต้องนำมาตรวจสอบอย่างละเอียด คาดว่าจะมีความชัดเจนของเครือข่ายและหน้าที่ของนายจิระพจน์ ส่วนกลุ่มนักศึกษาที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ซึ่งได้ประสานงานให้สถาบันการศึกษาต้นสังกัดทราบเรื่องแล้ว

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าศาลอนุมัติหมายจับตามคำร้องของพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน จำนวน 52 คน แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.นายจิระพจน์ ผู้ใช้จ้างวาน 2.พวกรับจ้างหรือเรียกว่ามือปืนรับจ้างทำข้อสอบ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งหมดถูกดำเนินคดี ข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ข้อหาตามความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) กรอกข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าไปในคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และข้อหาอั้งยี่ที่มีการรวมตัวกันกระทำผิดทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท นายจิระพจน์ถูกดำเนินคดีฐาน ผู้เป็นหัวหน้าอั้งยี่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ผู้ที่รับจ้างเฉลยข้อสอบมีความรู้เก่งกว่าคนที่เข้าสอบต้องเป็นคนเก่ง แต่น่าเสียดาย เพราะน่าจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ การกระทำเป็นการเอาเปรียบบุคคลที่เข้าสอบแข่งขัน ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม และเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี แนวทางการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าน่าจะมีบุคคลอื่นมากกว่านี้ที่อยู่เบื้องหลังนายจิระพจน์ แต่ ผู้ต้องหาให้การแค่นี้ก็ต้องพิสูจน์ทราบ แสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องกับใครอีก ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นห่วงในเรื่องนี้ เราจะทำงานให้เต็มที่เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะผู้เสียหาย รวมถึงผู้ต้องหา ผู้ที่ข้อสอบแข่งขัน และผู้ที่เกี่ยวข้อง

“ส่วนการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือนั้น ต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ต้องพิสูจน์ทราบอย่างมีเหตุผล และต้องทำให้รัดกุม ขณะนี้ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ พล.ต.ต.อดุลย์ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้กำหนดให้ผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน ที่สน.พหลโยธิน เพื่อชี้แจงและรับทราบข้อกล่าวหา ภายในวันที่ 14-15 ม.ค.นี้” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน